สังคม

การคุกคามทางเพศผ่านโลกอินเตอร์เน็ต

การคุกคามทางเพศถือเป็นเรื่องที่เหมือนกันว่าจะได้รับความสนใจและใส่ใจในสังคมไทยแต่เรื่องราวก็หายเข้ากลีบเมฆไปอย่างรวดเร็วโดนคนในสังคมทำเป็นลืม ๆ มันไปโดยไม่ได้ตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหาอย่างแท้จริง การคุกคามทางเพศ หรือ Sexual harassment นี้ไม่ใช่แค่การข่มขืนอย่างที่ทุกคนเข้าใจ แต่ยังรวมไปถึง คำพูด ท่าทาง การแสดงออกอย่างอื่น เช่น การลวนลามทางสายตาที่ส่งตรงไปที่ผู้เสียหายโดยที่ผู้เสียหายไม่ต้องการ การพูดจาล่อแหลมทั้งต่อหน้าและลับหลัง การพยายามแตะเนื้อต้องตัวโดยอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ การวิพากษ์วิจารณ์รูปร่างหน้าตาในเชิงลบและที่เห็นได้ชัดเจนและดูเหมือนว่าจะมากขึ้น ๆ ในทุก ๆ วัน คือการแสดงความคิดเห็นผ่านทางโซเชียลมีเดีย ในรูปหรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียหาย การส่งสื่อลามกอนาจารให้

                อินเตอร์เน็ตและสังคมออนไลน์นั้นบางครั้งไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตน ทำให้คนที่ซ่อนอยู่หลังคีย์บอร์ด คิดก่อนพูด คิดก่อนแสดงความคิดเห็นกันน้อยลง ในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ เมื่อมีภาพหรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันดารา นักแสดงพิธีกร หรืออื่น ๆ ทั้งผู้ชายและผู้หญิงมันจะมีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นมากมายโดยเป็นการโลมเลียและวาจาที่ส่อไปในเรื่องเพศ ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้น นำไปสู่อารมณ์ ความคิดและความรู้สึกทางลบแก่ผู้เสียหาย ผู้เสียหายหลายรายให้การว่า มันเป็นสิ่งที่ทำให้เขาเสียความมั่นใจ รู้สึกว่าคุณค่าในตัวเองลดลงในระดับจิตวิญญาณ ทำให้อับอาย รังเกียจ วิตกกังวล ซึมเศร้า เครียดและแม้กระทั่งไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ซึ่งผู้เสียหายได้เข้ารับการบำบัดรักษาและร้องทุกข์สูงสุดถึงปีละ 30,000 คน

แต่ก่อนการละเมิดทางเพศหรือการคุกคามทางเพศส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นโดยที่ผู้ชายเป็นฝ่ายกระทำ แต่ปัจจุบันนี้ ในเนื้อหาข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้องกับผู้ชายก็มีผู้หญิงหลายคนที่เข้าไปแสดงความคิดเห็นโลมเลีย วาบหวิว โดยคิดว่าเป็นเรื่องตลก คือว่าเป็นเรื่องปกติและใคร ๆ เขาก็ทำกัน จริงอยู่สังคมเปลี่ยนไป มุมมองต่าง ๆ ที่ใช้มองโลกเปลี่ยนไป แต่ไม่ว่าสังคม วัฒนธรรมจะเปลี่ยนไปแค่ไหน การให้เกียรติตัวเองและคนอื่นก็คือสิ่งที่สำคัญสูงสุดเสมอ ทั้งกาย วาจา ใจ กี่เรื่องแล้วที่เราทำไปด้วยความคึกคะนองและอ้างว่าใคร ๆ เขาก็ทำกัน อย่าให้เรื่องนี้ต้องเป็นอีกเรื่องที่เราทำตามเพราะเป็นอุปทานหมู่ที่ทำไปเพื่อความสนุกสนานโดยไม่นึกถึงจิตใจของผู้โดนกระทำ และปราศจากการไตร่ถามตัวเองอย่างแน่ชัดว่าทำไปเพื่ออะไรและการกระทำที่ร่วมมือร่วมใจกันทำอยู่นี้จะชี้นำสังคมไปในทิศทางไหน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในสังคมตอนนี้ล้วนเป็นผลจากการกระทำที่พวกเราร่วมมือร่วมใจกันทำแทบทั้งสิ้น ก่อนจะคุกคามทางเพศใคร ถามตัวเองก่อนว่าเราจะแสดงพฤติกรรมเหล่านี้ซ้ำ ๆ จนให้มันกลายเป็นมรดกตกทอดไปสู่คนรุ่นหลังหรือ นี่คือสังคมและวัฒนธรรมที่เราต้องการสร้างขึ้นมาจริงหรือ

Tagged , ,