ไบโพลาร์ คือโรคอารมณ์สองขั้วที่ประชากรในสหรัฐอเมริกาเป็นกันมากถึง 600,000 คน และส่วนใหญ่มีอาการถึงขั้นรุนแรง ซึ่งในยุคปัจุบันนี้ ไบโพลาร์ได้กลายเป็นโรคยอดฮิตไปแล้วในทุก ๆ ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง การทำงานของสมองที่เกี่ยวกับการควบคุม ระบบฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกาย รวมถึงการนอนหลับที่ผิดปกติ ซึ่งสิ่งที่ไปกระตุ้นให้โรคไบโพลาร์แสดงอาการออกมาได้ คือ ความเครียด หรือการได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง โดยไม่สามารถแก้ปัญหาชีวิตหรือออกมาจากความทุกข์ของปัญหาที่เกิดขึ้นได้ จนเกิดความผิดปกติทางอารมณ์ขึ้นมา ซึ่งพบบ่อยในครอบครัวที่มีผู้ป่วยเป็นไบโพลาร์มากกว่าครอบครัวปกติทั่วไป
อาการของผู้ป่วยโรคไบโพลาร์ จะมี 2 ช่วง คือ
1.ช่วงอารมณ์ซึมเศร้าตลอดเวลา ผู้ป่วยจะรู้สึกเบื่อหน่าย ท้อแท้สิ้นหวัง และไม่อยากทำอะไรติดต่อกันประมาณ 2 อาทิตย์ นอกจากนี้จะนอนไม่หลับ กระวนกระวาย น้ำหนักตัวลดลงและเบื่ออาหาร ทำอะไรเชื่องช้า ไม่มีแรง รู้สึกไร้ค่าและมองโลกในแง่ลบ บางรายถึงขั้นรุนแรงอาจคิดฆ่าตัวตายได้
2.ช่วงอารมณ์ดีหรือคึกคักมากกว่าปกติ ผู้ป่วยจะมีความสุข ร่าเริง เบิกบานใจ มีความมั่นใจในตัวเองสูงเกินไป นอนน้อยลง ความคิดแล่นเร็ว คิดหลายเรื่องได้พร้อม ๆ กัน พูดเร็วขึ้น วอกแวก ทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดเวลา ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ดื่มสุรามาก ใช้โทรศัพท์มาก เล่นการพนันและใช้เงินเก่ง
วิธีการรักษาผู้ป่วยโรคไบโพลาร์
- เข้าพบจิตแพทย์ ต้องปรึกษาแพทย์เพื่อจัดสภาวะของผู้ป่วย และเข้ารับการรักษาในระยะยาว แพทย์ก็จะจัดยาตามชนิดของโรคและลักษณะอาการของโรค ซึ่งในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการประสาทหลอนร่วมด้วย แพทย์ก็จะจ่ายยาต้านโรคจิตที่ใช้ในการควบคุมอารมณ์ซึมเศร้า
- การดูแลรักษาจากญาติ ครอบครัว หรือบุคคลใกล้ชิด การได้รับกำลังใจจากคนใกล้ชิดก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยไบโพลาร์ไม่ได้รับการกระตุ้นทางจิตใจให้เกิดอารมณ์รุนแรง ควรให้กำลังใจในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้ป่วย ดูแลให้ได้กินยาและปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด รวมถึงควบคุมการใช้จ่าย ควบคุมพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการได้รับอันตราย และต้องเข้าใจว่าผู้ป่วยเป็นโรคที่มีอารมณ์และพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ไม่ใช่นิสัยของผู้ป่วยแต่เดิม ดังนั้นจึงต้องให้ความรักความสงสาร และค่อย ๆ เยียวยาผู้ป่วยให้อาการดีขึ้น
ทั้งนี้โรคไบโพลาร์ เป็นโรคยอดฮิตและโรคที่อาจเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวของเราได้ตลอดเวลา ดังนั้นการทำความรู้จักกับโรคไบโพลาร์ รวมถึงการศึกษาข้อมูลตั้งแต่สาเหตุ อาการ และวิธีการรักษา ล้วนเป็นสิ่งสำคัญและมีความจำเป็นที่เราต้องรู้ไว้ เพราะเวลาเกิดกับคนใกล้ตัวของเรา จะได้ให้เค้าได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีได้ในช่วงอาการเริ่มต้น และเราจะได้ไม่เข้าใจผิดถึงอาการของโรคที่เกิดขึ้นซึ่งไม่ใช่นิสัยจริง ๆ ของผู้ป่วย จนต้องทอดทิ้งพวกเค้าเหล่านั้นไป
