กีฬา

อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่นคนแรกในวงการฟุตบอลทีมชาติไทย

หากย้อนไปดูประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลทีมชาติไทย เราเคยมีแต่โค้ลที่อิมพอร์ตมาจากต่างประเทศมากมายส่วนใหญ่มาจากทางยุโรปเสียมากกว่า แต่ ณ เวลานี้ทีมชาติไทยได้กุนซือฝีมือดีที่มาจากทวีปเอเชียมาคุมทีมฟุตบอลให้ทีมชาติไทยอย่าง “อากิระ นิชิโนะ” ซึ่งวันนี้เราจะบอกเล่าประวัติความเป็นมาของเขาก่อนที่จะก้าวเข้ามาเป็นเฮดโค้ชให้ทีมไทย

เส้นทางของอดีตนักฟุตบอลและโค้ชทีมชาติญี่ปุ่น สู่การเป็นเฮดโค้ชของทีมชาติไทย

อากิระ นิชิโนะ เกิดที่เมืองไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น เคยเป็นอดีตนักฟุตบอลในตำแหน่ง มิดฟิลด์ของทีมชาติญี่ปุ่น และกลายมาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลสโมสรในญี่ปุ่นหลายสโมสร เช่นทีม วิสเซล โคเบะ, คาชิวะ เรย์โซล, กัมบะโอซากะ, นางายะ แกรมปัส จนกระทั่งมีโอกาสได้เป็นโค้ชให้กับทีมชาติญี่ปุ่นในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน ปี 1996   

ผลงานของนิชิโนะที่โดดเด่นคือการเป็นโค้ชคนแรกที่พาทีม กัมบะ โอซากะ คว้าแชมป์ไปถึง 4 รายการ นั่นคือ

-แชมป์ เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก 2 สมัยติดกัน ในปี 2008 และ 2009

-แชมป์ เจลีก ปี 2005

-แชมป์เจลีก อีก 2 ครั้งในปี 1999 และ 2007

แม่ทัพญี่ปุ่นคนใหม่ จะนำ “ช้างศึก” ไทยไปสู่บอลระดับโลกได้หรือไม่

นิชิโนะ แม่ทัพคนใหม่แห่งแดนปลาดิบ ถือเป็นโค้ชทีมฟุตบอลชาติไทยที่เป็นชาวเอเชียคนแรก ซึ่งก่อนหน้านี้ไทยเคยมีแม่ทัพจากต่างแดนมา 13 คนแล้ว แต่ไม่ใช่ชาวเอเชียเลย ครั้งนี้ไทยได้ อากิระนิชิโนะ เป็นคนแรกที่เป็นโค้ชชาวเอเชียเพื่อมาคุมทีมฟุตบอลไทย

กีฬาฟุตบอลถือเป็นกีฬาที่คนไทยให้ความสนใจและได้รับความนิยมมาตลอด เราต่างมีความหวังว่าทีมฟุตบอลไทยจะสามารถก้าวไปสู่ฟุตบอลโลกได้ในสักวัน ที่ผ่านมาทีมช้างศึกไทยต่างก็ผิดหวังที่เรายังไม่ได้ก้าวไปสู่จุดนั้น แม้หลายครั้งผลงานของทีมชาติไทยดูจะไปได้ดีกว่าที่คิด แต่ไม่ว่าอย่างไร วงการฟุตบอลไทยยังไม่เคยหมดหวัง การหาแม่ทัพที่เหมาะสมและมีประสบการณ์เข้ามาคุมทีม อาจจะทำให้ประกายความหวังถูกจุดขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นได้

นิชิโนะ ได้ให้เหตุผลในการตัดสินใจเข้ามาคุมทีมชาติไทยไว้ว่าเขามองเห็นถึงความมุ่งมั่น ความทะเยอทะยาน ในตัวนักเตะทีมชาติไทยและที่สำคัญมองเห็นถึงความสามารถของนักเตะแต่ละคน เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาได้ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคให้กับทีมชาติญี่ปุ่น เขาจึงมีโอกาสได้ศึกษาข้อมูลของทีมชาติไทยอยู่บ่อยครั้ง เรียกได้ว่าเขาคอยติดตามฟอร์มการเล่นฟุตบอลของทีมไทยมาตลอด

แม่ทัพแห่งแดนปลาดิบผู้นี้ รู้ดีว่าการคุมทีมชาติไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขาก็ได้พยายามผสมผสานการทำงานระหว่างสองวัฒนธรรมทั้งแบบญี่ปุ่นและแบบไทยเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดทีมเวิร์คที่ดีที่สุด รวมถึงเค้นความสามารถของนักเตะแต่ละคนออกมาให้ได้มากที่สุด ด้วยการให้เชื่อมั่นในตัวเองเพื่อให้พวกเขาได้แสดงศักยภาพออกมาเต็มที่และพาทีมไทยไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ให้ได้

Tagged , ,