Uncategorized

10 เพลงความหมายดีตลอดกาลของสโมสรฟุตบอลอังกฤษ (1)

สำหรับประเทศที่มีประวัติศาสตร์ฟุตบอลมายาวนานอย่างประเทศอังกฤษ ที่กีฬาฟุตบอลถือเป็นสัญลักษณ์ของชาติเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละสโมสรจะมีเพลงประจำสโมสรที่ใช้ร้องเชียร์และให้กำลังใจ ดังนั้นบทความความนี้จึงได้นำเอา 10 เพลงความหมายดีจากสโมสรฟุตบอลประเทศอังกฤษมาแนะนำให้แฟนบอลชาวไทยได้ฟังกัน รับรองว่าความหมายดีและมีคุณค่าแน่นอน

  1. Everton: “If You Know Your History (It’s a Grand Old Team)”

เอฟเวอร์ตันคือสโมสรฟุตบอลที่มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ และพวกเขามีเพลงที่เข้ากับความสมบูรณ์แบบของพวกเขา ให้สมกับการที่เป็นทีมใหญ่แห่งเมืองลิเวอร์พูล ซึ่งบางส่วนของเนื้อเพลง “If You Know Your History (It’s a Grand Old Team)” แปลเป็นไทยได้ว่า

“นี้คือทีมที่ยิ่งใหญ่ควรค่าแก่การทุ่มเทกายใจ
และนี้คือทีมที่ยิ่งใหญ่ควรค่าแก่การสนับสนุน
และถ้าคุณรู้เรื่องราวประวัติของพวกเขา
มันเพียงพอที่จะทำให้หัวใจของคุณพองโต
เราไม่แคร์ไม่ว่าพวกเสื้อแดงจะพูดอะไร (เสื้อแดงหมายถึงลิเวอร์พูลคู่ปรับร่วมเมือง)
เราจะไปแคร์ทำไม
เพราะสิ่งเดียวที่เรารู้คือการแข่งขันจะเริ่มขึ้นแล้ว
และนักฟุตบอลเอฟเวอร์ตันอยู่ที่นี้ เอฟเวอร์ตัน เอฟเวอร์ตัน ”

 

  1. Manchester United: “We’ll Never Die”

ทีมปิศาจแดงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมีเพลงที่ใช้ร้องเชียร์เก่าและคลาสสิกหลายเพลง (อย่างเช่น Oh when the reds come marching in …) แต่เหล่าแฟนบอลปิศาจแดงก็มักจะร้องเพลงเก่าที่โด่งดังอย่างเพลง “We’ll Never Die” ด้วย ซึ่งเพลงนี้มีความหมายต่อสโมสรมาก เพราะทำให้รู้สึกถึงความโศกเศร้า คำสรรเสริญเยินยอ และเร้าใจให้ร้องไห้ตาม เพลงนี้ได้กล่าวสรรเสริญถึงนักฟุตบอลทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินตกเมื่อปี ค.ศ. 1958 เนื้อเพลงได้ทำให้แฟนบอลใหม่ๆหรือแฟนบอลสมัครเล่นได้เรียนรูเกี่ยวกับสโมสรมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่รู้จัก เวย์น รูนี่ย์ กับ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งบางส่วนของเนื้อเพลง “We’ll Never Die”  แปลเป็นไทยได้ว่า

“ธงของยูไนเต็ดเป็นสีแดงเข้มข้น เมื่อความตายปกคลุมที่มิวนิค ก่อนที่พวกเขาจะได้ฝึกซ้อมในฤดูหนาว หัวใจของพวกเขาห่อเหี่ยวไปทุกซอกมุม
ขอส่งให้สัญลักษณ์ของยูไนเต็ดอยู่เหนือพวกเรา
ภายใต้ร่มเงานั้นพวกเราจะใช้ชีวิตอยู่และต้องตายไป
จงยึดมั่นในศรัทธาและอย่าเกรงกลัว
เราจะเก็บธงสีแดงไว้ที่นี้

เราจะไม่มีวันตาย, เราจะไม่มีวันตาย, เราจะไม่มีวันตาย, เราจะไม่มีวันตาย
เราจะให้ธงสีแดงได้โบกสะบัด เพราะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไม่มีวันตาย”

 

  1. Derby County: “Steve Bloomer’s Watchin’”

เนื้อร้องที่ถูกเขียนโดยสองแฟนบอลทีมดาร์บี้เค้าตี้ และทำนองที่ขโมยมาจากเพลงเก่าของทีมฟุตบอลออสเตรเลีย เพลงนี้จึงถูกแต่งตั่งให้เป็นเพลงประจำสโมสรตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997 เพลงนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับนักเตะทีมเดอร์บี้และทีมชาติอังกฤษ เขาคือ สตีฟ บลูมเมอร์ ซึ่งเขาถือเป็นซุปเปอร์สตาร์ตัวจริงคนแรกของทีม เขาทำไป 317 ประตู ใน 536 นัดแรกที่ลงเล่น ซึ่งทำให้ชื่อของเขาถูกเรียกขานอย่างก้องกังวานในไพร์ด ปาร์ค สเตเดี้ยม ซึ่งบางส่วนของเนื้อเพลง “Steve Bloomer’s Watchin” แปลเป็นไทยได้ว่า

“สตรีฟ บลูมเมอร์กำลังมองดูอยู่
ช่วยพวกเขาต่อสู้ แนะนำฮีโร่ของพวกเรา
ไม่ว่ากลางคืนหรือกลางวัน
ทุกทีมที่มาเยือน
ที่นี่ไม่มีอะไรจะปิดบัง

ทุกคนจะต้องเกรงขามกับความภาคภูมิแห่งเดอร์บี้”

  1. Liverpool: “You’ll Never Walk Alone”

ลิเวอร์พูลมีเพลงประจำสโมสรหลายเพลงเป็นของตัวเอง อย่างเช่นเพลง “All Round the Fields of Anfield Road” ซึ่งใช้ดนตรีแบบเก่าคลาสสิกและความหมายของเพลงเกี่ยวกับความสำเร็จต่างๆมากมายของสโมสรตลอดการก่อตั้ง แต่เพลงที่โด่งดังที่สุดที่ขับร้องโดยร็อดเจอส์และแฮมเมอร์สตรีน ทั้งยังเป็นที่รู้จักของแฟนบอลในประไทย คือ “You’ll Never Walk Alone” ซึ่งเหล่าบรรดาแฟนบอลต่างรู้กันดีว่าตัวอักษร “YNWA” เป็นเอกลักษณ์ของทีมสีแดงแห่งลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่ไซด์ เพลงนี้ได้ถูกน้ำมาดัดแปลงโดยบ็อบ แชงค์ลี่ย์ และสโมสรลิเวอร์พูลเมื่อปี ค.ศ.1963 จากนั้นเพลงนี้ได้ถูกนำมาอัดเสียงอีกครั้ง โดยแกร์รี่และวงเดอะพีชเมคเกอร์ ด้วยเนื้อหาของเพลงที่หวานชื่นและขื่นขมในเวลาเดียวกัน รวมทั้งทำนองที่สมบูรณ์แบบซาบซึ้งกินใจ จากความมหัศจรรย์ที่อิสตันบลู รวมไปถึงโศกนาฏกรรมที่ฮิลโบโร่ เพลงนี้ก็สามารถสื่อถึงเรื่องราวเหล่านั้นได้เป็นอย่างดีและมีความหมายอย่างมากต่อแฟนบอลของทีมลิเวอร์พูล

  1. Manchester City: “Blue Moon”

เพลงนี้เพิ่งได้รับการดัดแปลงเมื่อช่วงกลางของยุค 90s แฟนบอลได้ทำเพลง “Blue Moon” ขึ้นมาเอง แม้ว่าจะมีเพลงประจำสโมสรอยู่แล้วหลายเพลงก็ตาม ซึ่งเมื่อเพลงนี้ถูกร้องพร้อมกับการชูผ้าพันคอบนอัฒจรรย์สนามฮัลทิฮัด จะสร้างความน่าเกรงขามมากเลยทีเดียว ซึ่งบางส่วนของเนื้อเพลง “Blur Moon” แปลเป็นไทยได้ว่า
“ดวงจันทร์สีน้ำเงิน
จากนี้ฉันไม่ได้อยู่ตามลำพัง
ปราศจากความฝันในหัวใจ
ปราศจากความรักที่เป็นของฉัน”