ธุรกิจ

ธุรกิจไทย-จีน ธุรกิจสร้างรายได้ ทั้งนำเข้าและส่งออก ที่ไม่เคยตกยุค

                เป็นที่รู้กันดีว่าประเทศจีนมีประชากรจำนวนมากถึง 1 ใน 3 ของประชากรโลก และคนจีนก็อาศัยอยู่ในทุกพื้นที่ทั่วโลก ทำให้มีการค้าขายและขยายตัวทางธุรกิจ ตั้งแต่ธุรกิจระดับครอบครัวไปจนถึงธุรกิจข้ามชาติ คนจีนนิยมขยายธุรกิจไปต่างประเทศมากขึ้น เพื่อนำเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศตน โดยเฉพาะในประเทศที่มีค่าเงินถูกกว่า เนื่องจากไม่ต้องลงทุนเท่ากับประเทศที่มีอัตราแลกเปลี่ยนสูง อีกทั้งทรัพยากรที่มีอยู่เป็นจำนวนมากและค่าแรงงานราคาถูก ก็เป็นอีกเหตุผลหลักที่ทำให้จีนเลือกลงทุน ในประเทศทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็็็ศศศศศโฌษศฑศศ นับตั้งแต่ปลายปี 2558 เป็นต้นมา นักธุรกิจจีนได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนในการขยายธุรกิจออกสู่ต่างประเทศ ตามยุทธศาสตร์ One Belt One Road และเชื่อว่าจะเพิ่ม สัดส่วนการค้าระหว่างประเทศต่าง ๆ ในโลกกับประเทศจีน โดยจีนเชื่อว่าไทยมีความพร้อมและยังไม่เคยมีปัญหาทางการเมืองหรือเศรษฐกิจกับจีน จึงทำให้ไทยเป็นประเทศแรก ๆ ที่รัฐบาลจีนสนับสนุนให้นักธุรกิจเข้ามาลงทุน นักธุรกิจจีนมีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทย ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องจักรอัจฉริยะ กลุ่มอุตสาหกรรมชีวภาพ กลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์  คนจีนเป็นนักธุรกิจโดยสายเลือด                 เคยมีคนกล่าวว่าคนจีนนั้นเป็นนักธุรกิจโดยสายเลือด ไม่ว่าพวกเขาจะไปทำอะไร อยู่ที่ไหน ก็มักจะมองหาช่องทางทำธุรกิจอยู่เสมอ ดังนั้นเมื่อคนจีนได้มีโอกาสไปในสถานที่ต่าง ๆไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยว หรืออาศัยอยู่เพื่อการศึกษาเล่าเรียนก็จะมองหาช่องทางทำกินอยู่เสมอ ประกอบกับระบบอินเตอร์เน็ตที่ครอบคลุมไปทั่วโลก สามารถเชื่อมต่อกันได้ง่ายขึ้นทำให้การติดต่อค้าขายนั้นเป็นไปได้อย่างไม่ลำบาก นักธุรกิจจีนส่วนใหญ่ใช้วิธีท่องเที่ยวในการเก็บข้อมูลทางธุรกิจ วางแผน และใช้ประโยชน์จากการตลาดออนไลน์และระบบขนส่งสินค้าของจีนที่มีความแข็งแกร่งเพื่อต่อยอดทางธุรกิจของตน คนจีนบางคนเริ่มจากธุรกิจเล็ก ๆ เช่น นำสินค้าจากประเทศที่ตนไปท่องเที่ยวไปขาย เมื่อสามารถหาลูกค้าและขยายตลาดได้ก็พัฒนาให้มีความใหญ่โตมากขึ้น ประเทศไทยขึ้นชื่อว่ามีสินค้ามากมายซึ่งเป็นที่นิยมของคนจีน ดังนั้นนักธุรกิจที่เจาะตลาดหาสินค้าและมีระบบการขนส่งที่เป็นระบบจึงได้เปรียบกว่านักธุรกิจที่ด้อยกว่า…

Continue Reading

สุขภาพ

“การนอน” 8 ชั่วโมง ดีต่อสุขภาพจริงหรือ?

เราทุกคนมีเวลาเท่ากันคือ 24 ชั่วโมงต่อวัน และแบ่งเวลาออกเป็น 3 ส่วน ๆ ละเท่า ๆ กันคือ 8 ชั่วโมง 8 ชั่วโมงที่ 1 เราอุทิศให้กับการทำงาน โดยมาตรฐานการทำงานของแต่ละประเทศส่วนใหญ่อยู่ที่ 8 ชั่วโมงต่อวัน 8 ชั่วโมงที่ 2 เป็นเวลาของการใช้ชีวิตประจำวัน ทำกิจวัตรส่วนตัวซึ่งต้องทำทุกวันไม่ว่าจะเป็น งานบ้าน กิจกรรมผ่อนคลายต่าง ๆ รวมไปถึงเวลาที่เราใช้เดินทางไปทำงาน 8 ชั่วโมงสุดท้ายนั่นคือการนอน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อร่างกายมาก ๆ เพราะร่างกายของเราจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ในขณะที่เรานอนหลับ ดังนั้นการนอนจึงเป็นผลดีต่อร่างกายทำให้เกิดความเชื่อที่ว่ายิ่งนอนมากก็ยิ่งเป็นผลดีต่อร่างกายมาก ความเชื่อนี้เป็นจริงหรือไม่? ประวัติศาสตร์สอนเรื่องการนอนมากเกินไป ในช่วงศตวรรษที่ 18 มีการรักษาชนิดหนึ่งเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา คิดค้นโดยคุณหมอชื่อ Dr. Silas Weir Mitchell การรักษานี้มีชื่อว่า Rest Cure (การนอนพัก) วิธีรักษาคือบังคับให้ผู้ป่วยนอนอยู่บนเตียง ห้ามขยับร่างกาย แม้กระทั่งเวลาทานอาหารหรือขับถ่าย ก็ต้องให้พยาบาลทำให้ทุกอย่าง ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและอาการของพวกเธอไม่ดีขึ้นแต่กลับแย่ลง หลายคนเกิดอาการแทรกซ้อนจากการที่ร่างกายไม่ได้ขยับเป็นเวลานาน เช่น แขนขาอ่อนแรงและแผลกดทับ นอกจากนี้ยังมีอาการแทรกซ้อนทางจิต เช่น วิตกจริต คิดฟุ้งซ่าน…

Continue Reading

สังคม

“การพนัน” สิ่งที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน

เมื่อพูดถึงการพนัน เชื่อว่าทุกคนต้องรู้ว่า การพนันคือการละเล่นชนิดหนึ่ง โดยการใช้วิธีเดิมพันด้วยสิ่งของหรือเงินทอง การพนันในโลกนี้มีหลายชนิดและแบ่งออกเป็นหลายประเภท ดังนี้ การพนันเพื่อคาดคะเนความน่าจะเป็นเช่นการเล่นหวย การพนันในการแข่งขันต่าง ๆ เช่น การแข่งขันฟุตบอลหรือมวย และการพนันเพื่อหาผู้ชนะจนได้รางวัลของการเดิมพันเช่น การเล่นไพ่ ไฮโล เป็นต้น การพนันเข้ามาในเมืองไทยเมื่อไร? ในสมัยแผ่นดินของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งราชอาณาจักรอยุธยา ราว ๆ ปีพ.ศ.2230 ได้มีการบันทึกการเล่นพนันของชาวสยาม โดยผู้บันทึกคือเอกอัครราชทูตชาวฝรั่งเศสนามว่า มองสิเออร์ เดอลาลูแบร์ แห่งพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ในบันทึกมีการปรากฏถึงการเล่นพนันของชาวสยาม ว่านิยมเล่นพนันกันมาก โดยเฉพาะการนำสัตว์มาต่อสู้และวางเดิมพันเพื่อพนันขันต่อ ทั้งสัตว์เล็กอย่างจิ้งหรีด ด้วง หรือปลากัด ไปจนถึงสัตว์ใหญ่เช่น ไก่ วัว ช้าง และควาย นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่ย้อนกลับไปในสมัยสุโขทัย ว่าชาวไทยเริ่มรับเอาวัฒนธรรมการพนันมาจากจีน โดยสันนิษฐานจากหลักฐานทางการพนันที่ปรากฏให้เห็นคือการเล่นถั่วโป ซึ่งเป็นการพนันที่ใช้วัสดุอุปกรณ์ง่าย ๆ เช่น เม็ดถั่ว เม็ดมะขาม หรือก้อนหิน มาทำการเดิมพันและพนันด้วยเบี้ยหรือเงินในสมัยนั้น การพนันเป็นสิ่งถูกกฎหมายในสมัยอยุธยาตอนปลาย                 ดังที่กล่าวไปแล้วในข้างต้น ว่าชาวไทยในสมัยอยุธยานิยมเล่นการพนันกันอย่างมาก เป็นผลให้ทางการต้องเข้ามาจัดการเพื่อให้เกิดระเบียบ โดยเรียกเก็บอากรจากเจ้าของบ่อนทุกแห่ง เข้าสู่ท้องพระคลังหลวง และได้ทำการอนุญาตให้มีการผูกขาดบ่อนการพนันตามหัวเมืองต่าง ๆ เป็นผลให้แผ่นดินในสมัยอยุธยาตอนปลายมีบ่อนการพนันอยู่ทุกแห่งหน ทำให้ราชการมีรายรับมากขึ้น และนำไปพัฒนาแผ่นดินในส่วนต่าง…

Continue Reading