สังคม

เปลี่ยนชื่อประเทศ เพื่อแก้ปัญหาระดับชาติ ทำแบบนั้นได้จริงใช่หรือไม่

“ชื่อนั้นสำคัญไฉน” คำกล่าวโบราณของไทยดูจะมีความสำคัญ เมื่อการเรียกชื่อนั้นส่งผลต่อความเชื่อของผู้เป็นเจ้าของชื่อ คนไทยส่วนใหญ่มักจะตั้งชื่อตามคำมงคลของศาสนา บ้างก็ให้พระหรือบุคคลสำคัญที่ตนนับถือเป็นผู้ตั้งชื่อให้ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และเมื่อชีวิตต้องเผชิญกับสถานการณ์เลวร้าย บุคคลนั้นจะถูกแนะนำจากคนรอบข้างว่าควรเปลี่ยนชื่อ เพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์ให้ดีขึ้น ไม่ใช่เพียงชื่อของบุคคลเท่านั้นที่ถูกเปลี่ยนเมื่อพบเจอกับปัญหา แต่ชื่อของประเทศก็ถูกเปลี่ยนเช่นกัน การเปลี่ยนชื่อประเทศนั้นก็เพื่อแก้ปัญหาทางการเมือง สังคม หรือปัญหาการพิพาทต่าง ๆ  มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้งทั่วโลก โดยเฉพาะเมื่อเปลี่ยนยุคสมัยของการปกครอง หรือการใช้ชื่อซ้ำกับประเทศอื่น ๆ การเปลี่ยนชื่อจึงเหมือนการประกาศว่าประเทศกำลังเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ เป็นการบอกประชาชนกลาย ๆ ว่าควรจะปรับตัวเพื่อการเปลี่ยนแปลง และยอมรับการพัฒนาที่ฝ่ายรัฐบาลกำลังดำเนินการ เปลี่ยนชื่อประเทศยุติปัญหา การเปลี่ยนชื่อประเทศครั้งล่าสุด เกิดขึ้นโดยประเทศมาซิโดเนีย เป็นเวลากว่า 30 ปีที่มีปัญหาเรื่องข้อพิพทาทกับประเทศกรีซ เนื่องจากชื่อมาซิโดเนียนั้นซ้ำกับชื่อภูมิภาคมาซิโดเนียทางตอนเหนือของกรีซ อีกทั้งยังเป็นชื่อเดียวกับอาณาจักรมาซิโดเนียที่ครั้งหนึ่งเคยถูกปกครองโดยราชวงศ์อาเจรท์ นอกจากนี้ชาวกรีกส่วนใหญ่ยังกังวลว่าในอนาคตประเทศมาซิโดเนียอาจใช้เป็นข้ออ้างในการผนวกดินแดนในภูมิภาคมาซิโดเนียของกรีซ จึงทำการลงนามเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการจาก สาธารณรัฐมาซิโดเนีย เป็น สาธารณรัฐประชาธิปไตยมาซิโดเนียเหนือ เพื่อยุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้น ในภูมิภาคอื่นก็มีการเปลี่ยนชื่อประเทศเช่นกัน ในทวีปแอฟริกาได้มีการประกาศเปลี่ยนชื่อประเทศสวาซิแลนด์ เป็น “ราชอาณาจักรแห่งเอสวาตินี” (the Kingdom of Eswatini) ซึ่งการเปลี่ยนชื่อครั้งนี้ถูกประกาศโดยกษัตริย์องค์ปัจจุบันคือ สมเด็จพระราชาธิบดี อึมสวาติที่ 3 ทรงระบุว่าผู้คนนอกแอฟริกามักสับสนชื่อประเทศสวาซิแลนด์กับสวิสเซอร์แลนด์ สำหรับประเทศไทยเองก็ได้ผ่านการเปลี่ยนชื่อมาแล้วเหมือนกัน โดยชื่อเดิมนั้นคือ “สยาม” เนื่องจากจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้แถลงประกาศการเปลี่ยนชื่อประเทศต่อรัฐสภาทำนองว่า มีความกังวลเรื่องชื่อประเทศ เพราะประชาชนในประเทศถูกเรียกว่าชาวไทย…

Continue Reading