กีฬา

ปาโบล ไอมาร์ ยอดเพลย์เมกเกอร์ ไอดอลของนักเตะหมายเลขหนึ่งของโลก

นักเตะทุกคนไม่เว้นแม้แต่นักเตะระดับโลกย่อมมีนักเตะไอดอลในวัยเด็กเป็นเสมือนต้นแบบของตัวเอง อย่างเช่น ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่มี โรนัลโด้ ดาวยิงสายเลือดแซมบ้าเป็นไอดอล, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ที่มอง เธียร์รี่ อองรี เป็นนักเตะต้นแบบ หรือแม้แต่เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ยกให้ ไมเคิล โอเว่น เป็นนักเตะคนโปรด แต่ในรายของ ลิโอเนล เมสซี่ ผู้ถูกยกให้เป็นนักเตะหมายเลขหนึ่งของโลก แม้แฟนบอลส่วนใหญ่จะคิดว่าไอดอลของเขาคงหนีไม่พ้น ดิเอโก มาราโดน่า แต่ที่จริงแล้วเจ้าของบัลงดอร์ 6 สมัยกลับมี “ปาโบล ไอมาร์” เป็นนักเตะที่เฝ้าติดตามมาตั้งแต่วัยเด็ก ปาโบล ไอมาร์ เริ่มต้นเส้นทางอาชีพกับทีมริเวอร์เพลท สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งลีกอาร์เจนติน่า โดยเป็นผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกที่คอยสร้างสรรค์โอกาสทำประตูให้กับคู่กองหน้าอย่าง มาร์เซโล่ ซาลาส และฮวน ปาโบล อังเคล และด้วยสายตาอันเฉียบคมในการอ่านเกม บวกกับการจ่ายบอลอย่างแม่นยำทั้งทิศทางและน้ำหนัก ทำให้ “คิลเลอร์พาส” กลายเป็นอาวุธประจำตัวของไอมาร์ที่ช่วยต้นสังกัดทำประตูได้มากมาย สถิติ 28 แอสซิสต์ จาก 82 นัด เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดี หลังลงเล่นให้กับริเวอร์เพลท 4 ปี ชื่อเสียงของไอมาร์ก็โด่งดังไปทั่วยุโรปจนมิดฟิลด์อาเจนไตน์กลายเป็นนักเตะเนื้อหอมที่บรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ของยุโรปต้องการตัวไปร่วมทีม แต่แล้วก็เป็นทีมบาเลนเซียที่ได้ตัวไปครองในปี 2001…

Continue Reading

กีฬา

วิลเลี่ยน การตัดสินใจครั้งสุดท้ายกับอนาคตในรังเชลซี

แม้ วิลเลี่ยน จะตัดสินใจกลับมาฝึกซ้อมและขยายสัญญาพิเศษออกไปเพื่อกลับมาลงสนามช่วยต้นสังกัดอย่างเชลซีทำการแข่งขันในฤดูกาล 2019-20 ที่เหลืออีกเพียง 9 นัดให้เสร็จสิ้น ซึ่งอาจจะเป็นช่วงสุดท้ายที่ปีกบราซิเลี่ยนจะได้ในยูนิฟอร์มสิงโตน้ำเงินคราม เมื่อการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ระหว่างเจ้าตัวกับสโมสรที่ยืดเยื้อมาตลอดทั้งฤดูกาลอาจจะมาถึงทางตันเสียแล้ว วิลเลี่ยน ถือเป็นหนึ่งในนักเตะคนสำคัญของเชลซีในฤดูกาลนี้ โดยปีกวัย 31 ปีถูกส่งลงสนามทุกรายการไปทั้งสิ้น 37 เกม ยิง 7 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์ ช่วยให้ทีมสิงโตแห่งลอนดอนทำคะแนนเป็นอับดับ 4 ในศึกพรีเมียร์ลีก แถมยังมีโอกาสลุ้นแชมป์ทั้งศึกเอฟเอคัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนที่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าจะส่งผลให้เกมการแข่งขันทั้งหมดต้องถูกเลื่อนออกไปเกือบ 3 เดือน โดยล่าสุดทางพรีเมียร์ลีกเตรียมกลับมาแข่งขันกันอีกครั้งในช่วงเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ เดิมทีสัญญาระหว่างวิลเลี่ยนกับเชลซีจะสิ้นสุดลงในเดือนมิถุนายน แต่เนื่องจากการกลับมาแข่งขันอีกครั้งของศึกพรีเมียร์ลีกหลังสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศอังกฤษดีขึ้น อาจต้องลากยาวไปจนถึงเดือนสิงหาคม ทำให้ทั้งสองฝ่ายตกลงขยายสัญญาระยะสั้นออกไปจนสิ้นสุดฤดูกาล ทั้งที่สโมสรเชลซีต้องการรั้งตัววิลเลี่ยนให้อยู่กับทีมต่อไปโดยมอบสัญญา 2 ปีให้พิจารณา ทั้งที่นโยบายของสโมสรจะทำการต่อสัญญากับผู้เล่นอายุมากกว่า 30 ปีแบบปีต่อปีเท่านั้น โดยตัวของวิลเลี่ยนเองนั้นต้องการได้รับสัญญายาว 3 ปีจากต้นสังกัด เพื่อความมั่นคงในช่วงท้ายอาชีพ เป็นผลให้การเจรจาต้องหยุดชะงักไปในที่สุด นับตั้งแต่ย้ายมาสู่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2013 วิลเลี่ยนก็กลายเป็นกำลังสำคัญพาเชลซีกวาดแชมป์ถึง 5 รายการ จากพรีเมียร์ลีก 2…

Continue Reading

กีฬา

โรแบร์โต ฟิร์มิโน่ คุณค่าที่มากกว่าแค่จำนวนการถล่มประตู

นับเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดของ โรแบร์โต ฟิร์มิโน่ ในถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อเขาถูกวิจารณ์อย่างหนักทั้งจากเหล่ากูรูลูกหนังและบรรดาแฟนบอลในเรื่องการผลิตสกอร์ในกับทีมลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2019-20 ซึ่งน้อยกว่าพาร์ทเนอร์ในแดนหน้าอย่างซาดิโอ มาเน่ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทั้งที่ดาวยิงบราซิเลี่ยนลงเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้าของทีม ก่อนที่พิษโควิด-19 จะเข้าเล่นงานจนลีกทั่วทั้งยุโรปต้องถูกพักการแข่งขันไปนานนับเดือน ฟิร์มิโน่ ทำประตูให้กับลิเวอร์พูลไปเพียง 11 ประตู จากการลงสนาม 43 นัดในทุกรายการ ในขณะที่มาเน่ทำได้ 18 ประตู ส่วนซาลาห์ก็ยิงไปทั้งสิ้น 20 ประตู ซึ่งทั้งสองคนลงเล่นด้วยจำนวนนัดที่น้อยกว่ากองหน้าทีมชาติบราซิลเสียอีก จนเป็นเหตุให้เกิดกระแสข่าวว่าทีมหงส์แดงกำลังมองหาศูนย์หน้าคนใหม่เข้ามาแทนที่ โดยมีชื่อของ ติโม แวร์เนอร์ ดาวยิงทีมชาติเยอรมันของแอร์เบ ไลป์ซิก เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง แน่นอนว่าหากมองเฉพาะจำนวนสกอร์ที่ฟิร์มิโน่ผลิตได้นั้นอาจจะดูน้อยไปสำหรับนักเตะในตำแหน่งที่อยู่ใกล้ปากประตูคู่แข่งมากที่สุด แต่สิ่งที่ฟิร์มิโน่ทำได้มากกว่าจำนวนประตูนั้นคือ การเป็นตัวเชื่อมเกมและสร้างโอกาสทำประตูให้เพื่อนร่วมทีม โดยดาวยิงหน้าเปื้อนยิ้มเป็นนักเตะประเภทที่วิ่งเข้าหาบอลอยู่เสมอ และเมื่อแย่งบอลได้สำเร็จสิ่งแรกที่ฟิร์มิโน่ทำคือการมองหาเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ในตำแหน่งได้เปรียบแล้วจ่ายบอลไปให้ทันที จนกลายเป็นที่มาของหลายประตูที่ทีมหงส์แดงทำได้ ซึ่งในฤดูกาลนี้ฟิร์มิโน่ทำไปแล้วถึง 12 แอสซิสต์ด้วยกัน แม้ตามแผนผังการเล่น ฟิร์มิโน่จะยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าให้กับทีมหงส์แดง แต่เมื่ออยู่ในสนามบทบาทที่เขาได้รับกลับเป็นผู้เล่น Flase 9 หรือศูนย์หน้าตัวหลอกนั่นเอง โดยฟิร์มิโน่มักเป็นคนที่ดึงตัวประกบออกมาจากแนวรับแล้วจ่ายบอลให้เพื่อนสอดขึ้นมาทำประตูได้บ่อยครั้ง ด้วยเทคนิคอันแพรวพราวตามแบบฉบับนักเตะแซมบ้า รวมถึงการเล่นเพื่อทีมอย่างไม่เห็นแก่ตัว ทำให้เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวหลอก จนได้รับคำชมจากเจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้เป็นเจ้านายอยู่บ่อยครั้ง กุนซือชาวเยอรมันเอ่ยปากชมอยู่บ่อยครั้งว่าฟิร์มิโน่เป็นนักเตะระดับโลก แถมยังยกย่องลูกทีมคนโปรดว่าเป็นศูนย์กลางเกมบุกของลิเวอร์พูลที่คอยเชื่อมประสานผู้เล่นแนวรุกจนผลงานของทีมออกมาดีตลอด 3 ปีหลัง…

Continue Reading