ธุรกิจ

ALIBABA เข้าไทย ใครรอด? ใครร่วง?

ALIBABA.com คือเว็บไซต์ขายส่งขนาดใหญ่สัญชาติจีน เพื่อรองรับการผลิตสินค้าจำนวนมหาศาลที่จีนเป็นผู้ผลิต และยังเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าขายส่งทั่วโลก ภายใต้การดำเนินงานที่เรียกว่า Business to Business หรือ B2B นอกจากนี้ผู้ซื้อยังสามารถมั่นใจในระบบการชำระเงินได้ เนื่องจากมีความปลอดภัยสูง โดยใช้ระบบเอสโครวสำหรับการรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน ซึ่งจะมีตัวกลางในการควบคุมดูแลทุกการชำระเงินอย่างใกล้ชิด

ความสำเร็จของ ALIBABA

ไม่เพียงแต่เป็นเว็บไซต์เพื่อขายส่งสินค้าออนไลน์เท่านั้น แต่ยังคล้ายระบบนิเวศน์ เพราะมีทั้งแพลตฟอร์มทาง Social Media ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดในจีนอย่าง Weibo เป็นเว็บแชตคล้าย Twitter ในฝั่งอเมริกา เรียกได้ว่าชาวจีนซึ่งมีจำนวน 1 ใน 3 ของประชากรโลกเกือบทุกคนมีบัญชีการใช้งาน Weibo

ALIBABA ถูกเรียกว่า AMAZON จีน เนื่องจากทางฝั่งอเมริกาก็มีเว็บไซต์ที่คล้ายกับ ALIBABA เช่นกันคือ AMAZON แต่มีความแตกต่างกันตรงที่ AMAZON ซื้อสินค้ามากักตุนไว้เพื่อทำการขายทางออนไลน์ แต่ ALIBABA ใช้วิธีนำผู้ซื้อและผู้ขายมาเจอกัน โดยมี ALIBABA เป็นสื่อกลางจัดการเรื่องการชำระเงินและขนส่งเท่านั้น ทำให้ได้รับความเสี่ยงต่ำกว่า AMAZON ในเรื่องการทำการตลาดเพื่อขายและขนส่งสินค้าไปทั่วโลก

รัฐบาลไทยจับมือกับ ALIBABA

                เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา ALIBABAได้ประกาศความร่วมมือกับภาครัฐของไทยในการส่งเสริมอุตสาหกรรมกับทางกระทรวงอุตสาหกรรมและกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อเปิดเส้นทางให้ ALIBABA ได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยภายใต้ชื่อ ALIBABA THAILAND ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล โดยมุ่งเน้นไปที่การดำเนินธุรกิจผ่าน E-Commerce รวมถึงส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรยุคใหม่ พัฒนาศักยภาพของตนให้ทันต่อระบบดิจิตอล

กล่าวคือ การเข้ามาของ ALIBABA ทำให้การค้าระหว่างไทย-จีนเติบโต ผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ของไทยเกิดการตื่นตัวในการพัฒนาธุรกิจของตนให้เท่าทันกับจีน เพื่อเป็นผู้นำในการแข่งขันระหว่างธุรกิจของทั้งสองสัญชาติ

ผลกระทบของ SME ไทยจาก ALIBABA

                นักวิชาการและนักเศรษฐศาสตร์ไทยหลายท่านได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงต่อการเปิดเส้นทางให้ ALIBABA เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่และก้าวหน้ากว่าของ ALIBABA จะทำให้การขยายตลาดครอบคลุมอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการขนส่งที่มีประสิทธิภาพก็สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ดีกว่า อีกทั้งระบบการชำระเงินที่ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถตรวจสอบได้ ดูเหมือนว่านวัตกรรมต่างๆของ ALIBABA นั้นเหนือกว่าคู่แข่งซึ่งก็คือธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กของไทย (SME) ในทุกๆด้าน ส่งผลให้การเข้ามาของ ALIBABA สร้างความกังวลใจอย่างมากต่อผู้ประกอบการไทย

ทางรอดของ SME ไทย

                เป็นความท้าทายอย่างมากต่อธุรกิจไทยในการเอาชนะยักษ์ใหญ่อย่าง ALIBABA แต่ถ้ามองในแง่ดีก็ยังมีหลายประการที่ผู้ประกอบการไทยเหนือกว่า ประการหลัก ๆ เลยก็คือการบริการ เนื่องจากการสื่อสารภาษาเดียวกันระหว่างลูกค้าและผู้ประกอบการทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและใกล้ชิดกว่า ในเมื่อเราไม่สามารถเทียบเท่า ALIBABA ในเรื่องเทคโนโลยีต้นทุนสูงได้ แต่เราสามารถปรับเปลี่ยนและพัฒนาการบริการให้มีประสิทธิภาพได้

การแข่งขันระหว่าง SME ไทยกับ ALIBABAนั้นดูเหมือนว่าไทยจะแพ้แบบหมดประตูสู้ แต่หากเราพัฒนาจุดแข็งหรือจุดที่ ALIBABA ทำไม่ได้ ธุรกิจไทยก็สามารถอยู่รอดได้ในยุคที่รัฐบาลไทยอนุญาตให้ตลาดจีนบุกไทยเช่นนี้

 

Tagged , ,