สาว ๆ หลายคน มีความสงสัยที่เกิดขึ้นเมื่อความสัมพันธ์แบบแฟน ต้องมานั่งคิด นั่งจินตนาการว่าแฟนเรายังรักเราหรือเปล่านะ ทำไมเค้าไม่บอกรักเราเลย ทำไมเค้าไม่ซื้อดอกไม้ให้เราเลย พอไปปรึกษาเพื่อนสาวก็พากันปวดหัวคิดไม่ออก สาว ๆ ต้องรู้ก่อนว่าผู้ชายกับผู้หญิงแสดงออกทางความรักแตกต่างกัน ในขณะที่ผู้หญิงรับฟังอย่างตั้งใจและต้องการทราบถึงรายละเอียดที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันแต่ละวันของเค้า ผู้ชายมีการแสดงออกทางความรักแบ่งออกได้เป็น 5 วิธีดังนี้ ช่วยแก้ไขปัญหา หากผู้ชายรักใครสักคนแล้ว เขาจะอยากแก้ไขปัญหาให้คนที่เขารัก แม่ น้องสาว พี่สาว หรือว่าแฟน การช่วยแก้ไขปัญหาอาจจะไม่ได้ฟังดูโรแมนติกเหมือนกับการซื้อดอกไม้ไปเซอร์ไพรส์ที่ทำงานทุกวัน แต่หากคุณบอกเขาว่ามีปัญหาเขาจะพร้อมช่วยคุณหาทางออกทันที เช่น หากรถยนต์คุณเสีย เขาจะช่วยซ่อมให้หรือไม่ก็เรียกช่างมาช่วยซ่อม หากก๊อกน้ำที่บ้านแตก เขาจะอาสาช่วยคุณทันที หากคุณบ่นเรื่องงานเขาจะนำเสนอแนวทางแก้ไข ซึ่งมันขัดกับความรู้สึกของผู้หญิง เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่แค่ต้องการระบายและคนรับฟังเท่านั้น ซึ่งตรงนี้จะต้องสื่อสารกันให้เข้าใจ ปกป้อง การปกป้องคนที่ตัวเองรักเป็นสัญชาตญาณของผู้ชาย เขาจะเปิดประตูให้คุณ เขาจะเดินข้างเมื่อข้ามถนนด้วยกัน หากมีคนมาว่าร้าย หรือจะมาทำร้ายเขาจะออกโรงปกป้องทันที เรื่องแบบนี้ถือว่าอยู่ในสายเลือดผู้ชายเลย ประกาศออกสื่อ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถ้าเขารักคุณจริงเขาจะโพสรูปคุณลงในเฟสบุ๊ค เขาจะพาคุณไปเจอเพื่อน เขาจะพาคุณไปเจอพ่อแม่ และเขาจะไม่ลังเลเลยที่จะไปเจอพ่อแม่คุณ ไปเจอเพื่อนคุณ ถ้าเขาบอกว่ารักคุณแต่แอบคุณเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น คุณต้องพิจารณาในข้อนี้แล้ว การบอกว่ารัก ไม่ใช่จะมาเพียงลมปากแต่ต้องพิสูจน์ได้ด้วย แสดงความรักผิดชอบอย่างเต็มที่ นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย หากเขาช่วยเหลือคุณในเรื่องที่ไม่สนุกมากนัก เช่น ย้ายของเข้าบ้าน ต่อตู้ ซื้ออาหารมาให้กินตอนเจ็บป่วย ดูแลตอนเจ็บป่วย…
Category: สังคม
ปัญหาหนี้นอกระบบในสังคมไทย เป็นภัยสังคม ผิดกฏหมาย ประชาชนต้องรู้
ปัจจุบันคนไทยเป็นหนี้นอกระบบกันมากมาย เพราะหลายคนไม่สามารถกู้เงินในระบบจากธนาคารได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติไม่ผ่านเกณฑ์ จึงหันไปกู้เงินนอกระบบ เพียงหวังจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน จนลืมนึกถึงดอกเบี้ยซึ่งต่ำ ๆ ก็ร้อยละ 10 – 20 % หรืออาจจะโหดร้ายกว่านั้น ซึ่งคนกู้ส่วนใหญ่ก็เป็นพ่อค้าแม่ขายที่มีรายได้น้อยอยู่แล้ว ความรู้ก็น้อย ไม่ได้มีการวางแผนการเงินที่ดี ได้กำไรมากลับต้องไปจ่ายให้ดอกเบี้ยเกือบทั้งหมด หนำซ้ำเข้าเนื้อไม่มีจ่ายก็ไปกู้มาเพิ่ม จนหาทางสิ้นสุดแห่งหนี้ไม่ได้ กลายเป็นปัญหาที่มีอยู่ในสังคมไทยจนถึงทุกวันนี้ หนี้นอกระบบคือภัยสังคม ด้วยเจ้าหนี้นอกระบบขาดมนุษยธรรม อาศัยความเดือดร้อนของลูกหนี้ที่จำเป็นต้องใช้ทุนในการประกอบอาชีพ หาผลประโยชน์บนความทุกข์ของลูกหนี้ โดยลูกหนี้เหล่านี้ รู้ทั้งรู้ว่าดอกเบี้ยสูงแต่ก็ไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องกู้เงินมาใช้เพื่อความอยู่รอดไปก่อน และเมื่อถึงเวลาไม่มีเงินใช้หนี้คืน ก็จะถูกเจ้าหนี้ข่มขู่ หรือโดนทำร้ายให้เจ็บตัวหรือเสียชีวิต อย่างที่มีข่าวให้เราได้เห็นกันในทุกวันนี้ ถึงแม้จะมีกฏหมายออกมาคุ้มครอง แต่หนี้นอกระบบก็ยังไม่เคยหมดไปจากสังคมไทย เพราะเจ้าหนี้บางรายยังคงมีอิทธิพลนั่นเอง หนี้นอกระบบผิดกฏหมาย ผู้ที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบจะผิด พ.ร.บ. การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 เพราะตามกฏหมาย การคิดดอกเบี้ยต้องไม่เกินร้อยละ 15 / ปี หรือร้อยละ 1.25 / เดือน ถ้าเกินจากนี้ดอกจะถูกปรับเป็นโมฆะ ลูกหนี้จะต้องชำระเพียงต้น โดย พ.ร.บ. การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 ได้กำหนดไว้ดังนี้ 1.ผู้ปล่อยเงินกู้ต้องจดทะเบียนการประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ชัดเจน 2.ทนายที่ว่าจ้างให้ไปทวงหนี้ ต้องได้รับรองขึ้นทะเบียนจากสภาทนายความ…
หยุดปัญหาสามีมีกิ๊ก เพราะผู้หญิงยุคใหม่ ทำอะไรได้มากกว่าการเป็นนางแจ๋วอยู่บ้าน
หมดยุคเดิม ๆ ที่ผู้หญิงจะต้องมานั่งทำงานบ้านเป็นนางแจ๋ว ปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนดูโทรม ทำงานรับใช้สามีแบบถวายชีวิต หุงข้าว ทำกับข้าว กวาดถูบ้าน ซักผ้ารีดผ้า เป็นต้น จนลืมคิดไปหรือเปล่าว่า นี่มันยุคอะไรกันแล้ว สามีออกไปทำงานนอกบ้าน เจอผู้หญิงสวย ๆ งาม ๆ บันเทิงตา แต่พอกลับมาถึงบ้านก็เจอนางแจ๋วโทรม ๆ ซ้ำซากจำเจ ถ้ายังไม่เกิดการนอกลู่นอกทางไปมีกิ๊กก็ดีไป แต่อย่ารอให้มันเกิดก่อนเลย เพราะสามีคุณเป็นแค่ปุถุชน หากมีผู้หญิงสวยงามแปลกใหม่เข้ามา กิเลสก็จะกำเริบจนลืมคำว่า “ศีลธรรม” กันง่าย ๆ คนที่จะต้องมานั่งช้ำใจจนปางตายก็คือคุณ และไม่ต้องไปตัดพ้อโทษโชคชะตาว่าทำดีแทบตายแต่ไม่ได้ดี เพราะความดีกับกิเลสมันคนละเรื่องกัน ฉะนั้นได้เวลาปฏิวัติตัวเองใหม่แล้ว อย่าเป็นแค่นางแจ๋วอยู่บ้าน แต่จงเป็นเจ้าหญิงในบ้านที่สวยเลอค่าในสายตาของสามีอยู่เสมอ ไปดูกันว่าผู้หญิงยุคใหม่ทำอะไรได้มากกว่าเป็นนางแจ๋วอยู่บ้าน 1.สวยตั้งแต่หัวจรดเท้า ลองเปลี่ยนทรงผมและสีผมให้ดูแปลกตาไปจากเดิม อาจตัดสั้นม้วนปลายก็เก๋ดี ลองหัดแต่งหน้าบ้าง เสื้อผ้าก็เปลี่ยนแนวเซ็กซี่บ้างอย่าให้จำเจ รวมถึง รูปร่างสัดส่วนต้องดูแลให้เป๊ะอยู่เสมอ ขัดผิวบ้าง บำรุงผิว กินวิตามินเสริมเพื่อความงาม ทำเล็บ ดูแลเล็บและร่างกายให้สะอาดอยู่เสมอ ใช้โรลออนกลิ่นอ่อน ๆ เย้ายวนบ้าง 2.ทำงานที่ตนเองถนัดและสามารถทำได้ อาจเป็นงานขายของออนไลน์ก็ได้ หรืองานอดิเรกที่คุณชอบเพื่อเพิ่มคุณค่าและเสน่ห์ในตัวคุณ 3.ทำงานบ้านแบบไม่หัวปรักหัวปรำ ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ทำงานบ้าน แต่หมายถึงทำงานบ้านได้แบบไม่บกพร่อง ขณะเดียวกันก็ต้องแบ่งเวลามาดูแลตัวเองหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ด้วย…
ในยุคปัจจุบัน คนส่วนใหญ่กำลังทำงานอะไรอยู่ มันใช่งานแห่งชีวิตหรือไม่
คงจะหลีกหนีไม่พ้นสำหรับคนทั้งโลกที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับการทำงาน ซึ่งหลายคนมีการศึกษาดี ต้นทุนชีวิตสูง ก็สามารถเลือกทำงานที่ตนรักและถนัดได้ ขณะเดียวกันที่หลาย ๆ คนมีความรู้น้อย ต้นทุนชีวิตต่ำ พวกเค้าก็ไม่สามารถเลือกทำงานที่ตนเองรักและถนัดได้ จึงต้องใช้แรงงานแลกเงินเพื่อเลี้ยงปากท้องให้อยู่รอดไปวัน ๆ ซึ่งไม่รู้เลยว่า คุณค่าของตัวเองคืออะไร เคยได้ยินใช่ไหม “ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน” นั่นหมายถึง ผลของงานที่ออกมามันวัดคุณค่าในความเป็นตัวคุณได้ วันนี้เราจึงมีแนวความคิดเกี่ยวกับงาน 3 แบบในชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน มาแบ่งปัน ว่าตอนนี้คุณกำลังทำงานแบบไหนอยู่ แล้วงานนั้นคุณได้ใช้คุณค่าในตัวคุณทำมันอยู่หรือไม่ งาน 3 แบบในชีวิตของคนยุคปัจจุบัน 1.งานเลี้ยงชีวิต คืองานที่คุณกำลังทำอยู่ในทุกวันนี้ เพื่อแลกมากับรายได้ที่สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำในบริษัท หรือสำนักงานต่าง ๆ ซึ่งคุณอาจชอบที่จะทำ หรืออาจทำเพราะไม่มีงานอะไรที่ดีกว่านี้ จึงจำเป็นต้องทำไปก่อน ในขณะเดียวกัน หลายคนไม่กล้าตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงงานที่ทำอยู่ เพราะกลัวว่าจะไม่ดีเท่านี้ หรือคิดว่าตัวเองทำได้เท่านี้ จึงทำให้พวกเค้าเหล่านั้น ยังคงต้องใช้ชีวิตเกือบทั้งหมดอยู่กับงานเลี้ยงชีวิตแบบเดิม ๆไปตลอดนั่นเอง 2.งานสร้างชีวิต คืองานที่หลายคนสามารถเก็บเงินจากงานเลี้ยงชีวิตได้ก้อนหนึ่ง ก็นำไปลงทุนทำธุรกิจส่วนตัวเพื่อต่อยอด หรือบางคนทำงานเลี้ยงชีวิตไปด้วยควบคู่กับงานสร้างชีวิต ด้วยการให้เงินทำงาน เช่น การลงทุนหุ้น หรืองานออนไลน์ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบัน มีงานสร้างชีวิตเกิดขึ้นมากมาย ทั้งนี้คุณต้องศึกษาข้อมูล รวมถึงการวิเคราะห์ ข้อดีข้อเสียจากการทำงานสร้างชีวิตนั้นให้ดีเสียก่อน เพื่อที่คุณจะได้ประสบความสำเร็จ และมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ 3.งานแห่งชีวิต…
ความรู้คู่ครัว สู่อาหารจานโปรด สวรรค์ของคนรักชีสโดยเฉพาะ
ชีส (Cheese) คือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ซึ่งเปลี่ยนสถานะจากน้ำเป็นของแข็งโดยการเติมเชื้อจุลินทรีย์ ชีสมีคุณค่าทางอาหารประกอบไปด้วยโปรตีน แคลเซียม สังกะสี ฟอสฟอรัส และวิตามินบี 12 และมีน้ำตาลแลคโตสต่ำกว่านม ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ที่มีปัญหาเรื่องการแพ้นม ชีสมีหลายชนิด เช่น มอสซาเรลลา (Mozzarella Cheese) เป็นชีสที่มีความยืด และไม่มีกลิ่นแรง เนื่องจากใช้เวลาบ่มไม่นาน นิยมโรยบนหน้าพิซซ่า, เชดดาชีส (Cheddar Cheese) มีรสเค็มนิด ๆ และค่อนข้างแข็ง นิยมเอามาทานกับขนมปัง, พาร์เมซานชีส (Parmesan Cheese) มีเนื้อแข็ง รสชาติเข้มข้น กลิ่นแรง นิยมเอาไปทำซีซาร์สลัด หรือทานกับพาสต้า, บลูชีส (Blue Cheese) มีลวดลายสีฟ้าที่เกิดจากเชื้อราและมีกลิ่นรุนแรงเฉพาะตัว บางคนเรียกว่าชีสเน่า เนื่องจากมีรสเค็มจึงนิยมทานคู่กับไวน์ นอกจากนี้ยังมีชีสอีกหลายชนิด ที่ถูกผลิตขึ้นจากภูมิปัญญาของมนุษย์ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ประเทศที่เป็นเหมือนสวรรค์ของคนรักชีส ประเทศที่นักท่องเที่ยวผู้มีความคลั่งไคล้ในชีสควรจะไปเยือน ได้แก่ เยอรมัน นอกจากเบียร์และไส้กรอกที่ได้รับความนิยมแล้ว ชีสก็เป็นสินค้าขึ้นชื่อของเยอรมันเช่นกัน โดยเฉพาะ Emmentaler Cheese ซึ่งเป็นชีสที่มีชื่อเสียงในเมืองมิวนิค มีกลิ่นแรงเฉพาะตัว และนิยมทานกับเบียร์ ฝรั่งเศส…
เปลี่ยนชื่อประเทศ เพื่อแก้ปัญหาระดับชาติ ทำแบบนั้นได้จริงใช่หรือไม่
“ชื่อนั้นสำคัญไฉน” คำกล่าวโบราณของไทยดูจะมีความสำคัญ เมื่อการเรียกชื่อนั้นส่งผลต่อความเชื่อของผู้เป็นเจ้าของชื่อ คนไทยส่วนใหญ่มักจะตั้งชื่อตามคำมงคลของศาสนา บ้างก็ให้พระหรือบุคคลสำคัญที่ตนนับถือเป็นผู้ตั้งชื่อให้ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และเมื่อชีวิตต้องเผชิญกับสถานการณ์เลวร้าย บุคคลนั้นจะถูกแนะนำจากคนรอบข้างว่าควรเปลี่ยนชื่อ เพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์ให้ดีขึ้น ไม่ใช่เพียงชื่อของบุคคลเท่านั้นที่ถูกเปลี่ยนเมื่อพบเจอกับปัญหา แต่ชื่อของประเทศก็ถูกเปลี่ยนเช่นกัน การเปลี่ยนชื่อประเทศนั้นก็เพื่อแก้ปัญหาทางการเมือง สังคม หรือปัญหาการพิพาทต่าง ๆ มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้งทั่วโลก โดยเฉพาะเมื่อเปลี่ยนยุคสมัยของการปกครอง หรือการใช้ชื่อซ้ำกับประเทศอื่น ๆ การเปลี่ยนชื่อจึงเหมือนการประกาศว่าประเทศกำลังเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ เป็นการบอกประชาชนกลาย ๆ ว่าควรจะปรับตัวเพื่อการเปลี่ยนแปลง และยอมรับการพัฒนาที่ฝ่ายรัฐบาลกำลังดำเนินการ เปลี่ยนชื่อประเทศยุติปัญหา การเปลี่ยนชื่อประเทศครั้งล่าสุด เกิดขึ้นโดยประเทศมาซิโดเนีย เป็นเวลากว่า 30 ปีที่มีปัญหาเรื่องข้อพิพทาทกับประเทศกรีซ เนื่องจากชื่อมาซิโดเนียนั้นซ้ำกับชื่อภูมิภาคมาซิโดเนียทางตอนเหนือของกรีซ อีกทั้งยังเป็นชื่อเดียวกับอาณาจักรมาซิโดเนียที่ครั้งหนึ่งเคยถูกปกครองโดยราชวงศ์อาเจรท์ นอกจากนี้ชาวกรีกส่วนใหญ่ยังกังวลว่าในอนาคตประเทศมาซิโดเนียอาจใช้เป็นข้ออ้างในการผนวกดินแดนในภูมิภาคมาซิโดเนียของกรีซ จึงทำการลงนามเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการจาก สาธารณรัฐมาซิโดเนีย เป็น สาธารณรัฐประชาธิปไตยมาซิโดเนียเหนือ เพื่อยุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้น ในภูมิภาคอื่นก็มีการเปลี่ยนชื่อประเทศเช่นกัน ในทวีปแอฟริกาได้มีการประกาศเปลี่ยนชื่อประเทศสวาซิแลนด์ เป็น “ราชอาณาจักรแห่งเอสวาตินี” (the Kingdom of Eswatini) ซึ่งการเปลี่ยนชื่อครั้งนี้ถูกประกาศโดยกษัตริย์องค์ปัจจุบันคือ สมเด็จพระราชาธิบดี อึมสวาติที่ 3 ทรงระบุว่าผู้คนนอกแอฟริกามักสับสนชื่อประเทศสวาซิแลนด์กับสวิสเซอร์แลนด์ สำหรับประเทศไทยเองก็ได้ผ่านการเปลี่ยนชื่อมาแล้วเหมือนกัน โดยชื่อเดิมนั้นคือ “สยาม” เนื่องจากจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้แถลงประกาศการเปลี่ยนชื่อประเทศต่อรัฐสภาทำนองว่า มีความกังวลเรื่องชื่อประเทศ เพราะประชาชนในประเทศถูกเรียกว่าชาวไทย…
“การพนัน” สิ่งที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน
เมื่อพูดถึงการพนัน เชื่อว่าทุกคนต้องรู้ว่า การพนันคือการละเล่นชนิดหนึ่ง โดยการใช้วิธีเดิมพันด้วยสิ่งของหรือเงินทอง การพนันในโลกนี้มีหลายชนิดและแบ่งออกเป็นหลายประเภท ดังนี้ การพนันเพื่อคาดคะเนความน่าจะเป็นเช่นการเล่นหวย การพนันในการแข่งขันต่าง ๆ เช่น การแข่งขันฟุตบอลหรือมวย และการพนันเพื่อหาผู้ชนะจนได้รางวัลของการเดิมพันเช่น การเล่นไพ่ ไฮโล เป็นต้น การพนันเข้ามาในเมืองไทยเมื่อไร? ในสมัยแผ่นดินของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งราชอาณาจักรอยุธยา ราว ๆ ปีพ.ศ.2230 ได้มีการบันทึกการเล่นพนันของชาวสยาม โดยผู้บันทึกคือเอกอัครราชทูตชาวฝรั่งเศสนามว่า มองสิเออร์ เดอลาลูแบร์ แห่งพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ในบันทึกมีการปรากฏถึงการเล่นพนันของชาวสยาม ว่านิยมเล่นพนันกันมาก โดยเฉพาะการนำสัตว์มาต่อสู้และวางเดิมพันเพื่อพนันขันต่อ ทั้งสัตว์เล็กอย่างจิ้งหรีด ด้วง หรือปลากัด ไปจนถึงสัตว์ใหญ่เช่น ไก่ วัว ช้าง และควาย นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่ย้อนกลับไปในสมัยสุโขทัย ว่าชาวไทยเริ่มรับเอาวัฒนธรรมการพนันมาจากจีน โดยสันนิษฐานจากหลักฐานทางการพนันที่ปรากฏให้เห็นคือการเล่นถั่วโป ซึ่งเป็นการพนันที่ใช้วัสดุอุปกรณ์ง่าย ๆ เช่น เม็ดถั่ว เม็ดมะขาม หรือก้อนหิน มาทำการเดิมพันและพนันด้วยเบี้ยหรือเงินในสมัยนั้น การพนันเป็นสิ่งถูกกฎหมายในสมัยอยุธยาตอนปลาย ดังที่กล่าวไปแล้วในข้างต้น ว่าชาวไทยในสมัยอยุธยานิยมเล่นการพนันกันอย่างมาก เป็นผลให้ทางการต้องเข้ามาจัดการเพื่อให้เกิดระเบียบ โดยเรียกเก็บอากรจากเจ้าของบ่อนทุกแห่ง เข้าสู่ท้องพระคลังหลวง และได้ทำการอนุญาตให้มีการผูกขาดบ่อนการพนันตามหัวเมืองต่าง ๆ เป็นผลให้แผ่นดินในสมัยอยุธยาตอนปลายมีบ่อนการพนันอยู่ทุกแห่งหน ทำให้ราชการมีรายรับมากขึ้น และนำไปพัฒนาแผ่นดินในส่วนต่าง…
รายงานความสุขโลก 2018 ฟินแลนด์มาเป็นอันดับ 1 ไทยรั้งอันดับ 46
ความสุข เป็นสิ่งที่ทุกคนในโลกใบนี้ต้องการและถามหา ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับในปีนี้หลายคนก็คงจะอยากรู้กันแล้วว่าประเทศใดจะเป็นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก และอันดับ 1 ในปีนี้ก็คือประเทศฟินแลนด์ที่คว้าดัชนีความสุขอันดับ 1 ไปแทนที่ประเทศนอร์เวย์แชมป์ความสุขในปีที่แล้วแถมยังแซงประเทศอื่น ๆ ได้แก่ เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ไปได้อีกด้วย ส่วนประเทศไทยเราตกไปอยู่ในอันดับที่ 46 จากอันดับที่ 36 ในปีที่แล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับประเทศฟินแลนด์ ประเทศที่ได้ชื่อว่ามีความสุขมากที่สุดในโลกกัน อันดับความสุขวัดจากอะไร ก่อนจะไปรู้จักกับประเทศฟินแลนด์ เรามาทราบที่มาที่ไปของดัชนีการวัดความสุขของประเทศในโลกกันก่อน เพราะเชื่อว่าหลายคนคงจะสงสัยว่าความสุขที่ว่านี้ วัดมาจากอะไร รายงานความสุขโลก เป็นการวัดความสุขโดยองค์การสหประชาชาติ โดยในรายงานปี 2018 เป็นการสำรวจดัชนีของตัวแปรต่าง ๆ โดยเป็นการให้คะแนนตั้งตา 0 ถึง 10 ซึ่งตัวแปรหลัก ๆ ที่นำมาเอามาคำนวณเป็นตัวชี้วัดความสุข ได้แก่ มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ การสนับสนุนทางสังคม อายุขัยเฉลี่ย เสรีภาพการใช้ชีวิต ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และระดับการคอรัปชั่น ซึ่งการสำรวจในปีนี้มาจากการสำรวจจากประเทศทั่วโลกทั้งหมด 156 ประเทศนั่นเอง ทำไมฟินแลนด์ถึงมีความสุขที่สุด ประเทศฟินแลนด์ เป็นประเทศในกลุ่มนอร์ดิก ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป ซึ่งประเทศนี้มีประชากรเพียงแค่ 5 ล้านคนเท่านั้น สำหรับระบบการปกครองของประเทศนี้ เป็นการปกครองในระบบสาธารณรัฐ มีรัฐสภา…
ไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ สถิติเด็กเกิดใหม่น้อยลง
ปัจจุบันสังคมไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคที่เรียกว่าสังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา 1 ใน 10 ของประชากรไทยเป็นประชากรที่มีอายุเกินกว่า 60 ปีขึ้นไป และคาดว่าประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในปี 2564 และ ก้าวเข้าสู่สังคมวัยสูงอายุในระดับสุดยอด ซึ่งหมายความว่าจะมีจำนวนผู้สูงอายุมากถึง 1 ใน 5 ของจำนวนประชากรทั้งหมด ซึ่งการที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุนั้น ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงและผลกระทบในสังคมหลายประการ ปัญหาของสังคมผู้สูงอายุ การที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้เกิดปัญหาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ นั่นคือการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากประชากรวัยแรงงานลดน้อยลง ส่งผลให้โครงสร้างทางด้านประชากรเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเมื่อประเทศขาดประชากรในวัยแรงงาน นั่นย่อมส่งผลกระทบต่อหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และเป็นผลกระทบที่สำคัญต่อกำลังการผลิต ทำให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจหรือ GDP ของประเทศไทยชะลอตัว ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าจะทำให้ GDP ของประเทศชะลอตัวลงอย่างน้อยร้อยละ 1 ต่อปี นอกจากการโครงสร้างของประชากรเปลี่ยนไปแล้ว ผู้สูงอายุในกลุ่มที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ยังต้องการความช่วยเหลือและสวัสดิการจากภาครัฐ ในการเข้ามาช่วยดูและคุณภาพการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของที่อยู่อาศัย การรักษาพยาบาล รวมถึงสวัสดิการเบี้ยยังชีพต่าง ๆ จากภาครัฐ ที่ต้องอาศัยความช่วยเหลือ และการตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาและการดูแลผู้สูงอายุเหล่านี้ เด็กเกิดใหม่น้อยลง นอกจากผู้สูงอายุจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว จำนวนเด็กเกิดใหม่ในประเทศไทยก็ยังมีอัตราลดลงอย่างต่อเนื่อง…
รปภ. ทำงามหน้า!! พยายามขืนใจสาวในห้องน้ำ กลาง Villa Market
งามหน้า!! รปภ. ห้าง Villa Market สาขาราชพฤกษ์ พยายามขืนใจสาวในห้องน้ำ ถูกจับได้โดยลูกค้าและพลเมืองดี โดยเหย่ื่อได้แจ้งว่าเหตุเกิดในช่วงที่ไม่มีคนพลุกพล่านมากนัก