กีฬา

บุนเดสลีกา ผู้สร้างวิถีชีวิตการเชียร์ฟุตบอลแบบใหม่ของยุโรป

หลังถูกผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าจนทำให้ลีกฟุตบอลทั่วยุโรปต้องเว้นวรรคไปนานเกือบ 2 เดือน ในที่สุดศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ก็กลับมาลงสนามฟาดแข้งกันอีกครั้ง นับเป็นลีกชั้นนำของยุโรปรายแรกที่ตัดสินใจกลับมาจัดแข่งขันอีกครั้งจนจบฤดูกาล ด้วยรูปแบบการแข่งขันที่มีข้อกำหนดมากมายเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านสาธารณสุข ซึ่งถือเป็นกรณีศึกษาให้กับลีกอื่นในยุโรปต่อไป ก่อนถูกพิษโควิด-19 เล่นงานจนต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป ทีมส่วนใหญ่ในศึกบุนเดสลีกาลงเตะไปแล้วทั้งสิ้น 25 นัด โดยมีบาเยิร์น มิวนิค รั้งตำแหน่งจ่าฝูง ในขณะที่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็ทำแต้มไล่จี้จนตามหลังเพียง 4 คะแนนเท่านั้น แถมทั้งคู่ยังมีโปรแกรมที่ต้องเจอกันเองด้วย ทำให้การตัดสินหาแชมป์ประจำฤดูกาล 2019-20 รวมไปถึงการลุ้นโควตาฟุตบอลยุโรปฤดูกาลหน้า จึงยังเต็มไปด้วยความเข้มข้นกับอีก 9 นัดที่เหลือ นัดแรกของการกลับมารีสตาร์ทลีกเมืองเบียร์ ถือเป็นศึกใหญ่อย่างดาร์บี้แมตช์แห่งแคว้นรูห์ เมื่อโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดรังซิกนัล อิดูน่า พาร์ค ต้อนรับชาลเก้ 04 โดยผลการแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะอย่างท่วมท้นของฝั่งเจ้าบ้านถึง 4-0 นับเป็นผลการแข่งขันที่สร้างความเซอร์ไพรซ์ให้กับแฟนบอลไม่น้อยทั้งที่เป็นเกมแห่งศักดิ์ศรีครั้งที่ 156 ที่ทั้งคู่พบกัน ซึ่งไม่ใช่แค่ผลงานในสนามเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงบรรยากาศต่าง ๆ รอบสนามที่ทำให้อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้  เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย การแข่งขันจึงถูกจัดขึ้นแบบปิดสนาม ไม่อนุญาตให้แฟนบอลเข้าชมเกมการแข่งขัน อัฒจันทร์จึงเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ไร้ซึ่งสีสันจากแฟนบอล เสียงเชียร์ที่เคยดังกระหึ่มจึงเหลือเพียงแค่เสียงตะโกนจากโค้ชและนักเตะข้างสนามเท่านั้น แถมยังมีข้อกำหนดต่าง ๆ อย่างเช่น ให้นักเตะสำรองและทีมงานโค้ชทุกคนบนซุ้มม้านั่งสำรองต้องนั่งกันแบบเว้นระหว่างทางสังคม รวมถึงต้องสวมหน้ากากอนามัย, เว้นระยะห่างระหว่างนักเตะกับผู้ตัดสิน ผู้เล่นจึงหมดสิทธิ์รุมกดดันผู้ตัดสิน,…

Continue Reading