สังคม

“พ่อแม่รังแกฉัน” ประโยคอมตะนิรันดร์กาล

สภาพสังคมทุกวันนี้ มีเห็นแต่ข่าวคราวของเด็กที่ใช้ความรุนแรงมากขึ้นทุกที ข่าวเด็กอาชีวศึกษายกพวกยิงกันตาย ข่าวเด็กนักเรียนเครียดกระโดดตึกตาย ข่าวเด็กผู้หญิงตั้งท้องตั้งแต่ในวัยเรียน ต้องไปทำแท้งหรือคลอดลูกแล้วฆ่าลูกยัดชักโครกตามปั๊มน้ำมัน หรือข่าวเด็กเอาปืนมาเล่นยิงกันตาย ข่าวคราวมากมายที่ถาโถมเข้ามาให้สังคมประเทศไทยได้รับรู้ จนเกือบจะกลายเป็นความเคยชิน เสียงคนด่าเด็กว่าเป็นเด็กเลว เด็กไม่ดี สารพัดคำสาปแช่งที่สามารถจะคิดค้นมาสาดโครมใส่เด็กทั้งหลายตามโลกโซเชียลให้เห็นเป็นประจำ เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมหรืออะไรเป็นสาเหตุให้เด็กมีพฤติกรรมเช่นนี้ พ่อแม่ส่วนใหญ่ดูแลลูกของตัวเองเป็นอย่างดี อบรมและสั่งสอนลูกอยู่เสมอ ส่งเสียให้เรียนในสถานศึกษาที่ดี ยอมทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อให้ลูกได้รับการศึกษาที่ดี แต่ทำไมลูกยังเสียคนยังมีพฤติกรรมที่โน้มเอียงไปทางที่ไม่ดี บางคนโชคดีหน่อยที่ยังไม่ได้ออกนอกลู่นอกทางไปมากนัก พอที่จะพาให้กลับเข้าที่เข้าทางได้ แต่ยังมีเด็กอีกมากมาย ที่หลงทางกู่ไม่กลับเลยทีเดียว และพอเกิดปัญหาขึ้นมา พ่อแม่ส่วนใหญ่ก็ยังคิดว่า “ลูกฉันเป็นคนดี”                 แต่ความจริงที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย คือเด็กคนหนึ่งกว่าจะโตเป็นวัยรุ่น ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับพ่อแม่ สิ่งที่เด็กหล่อหลอมออกมาเป็นความเคยชิน จนซึมซับเข้าไปเป็นนิสัยคือสิ่งที่เด็กเห็นอยู่ทุกวัน พ่อแม่ชนชั้นกลางถึงชนชั้นยากจน ต้องทำงานอย่างหนัก เพราะพิษเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้ไม่มีเวลาอยู่บ้าน แต่บางครอบครัวพ่อแม่ทะเลาะตบตีทำร้ายร่างกายกันเป็นประจำ พ่อเมา แม่บ่น หรือบางครั้งคนเป็นแม่เป็นฝ่ายเมาเสียเอง บางครอบครัวสามัคคีกัน แต่ชอบมีเรื่องทะเลาะกับคนอื่น บางครอบครัวตามใจลูกเอาใจลูกทุกอย่างและโทษทุกสิ่งทุกอย่างนอกจากลูกตัวเอง เด็กรับรู้และเห็นมาตลอด จนสั่งสมความรุนแรง เห็นเป็นเรื่องปกติและเป็นเรื่องถูกต้องที่จะต้องกระทำ ไม่เคยคิดถึงคำว่าให้อภัย ต้องตอบโต้กับทุกเหตุการณ์กับทุกคนที่ทำให้ไม่พอใจไม่ถูกใจ พ่อแม่ชนชั้นสูง ร่ำรวยมีกิจการใหญ่โต ใช้เงินเลี้ยงดูลูก ไม่มีเวลาให้ครอบครัว แต่เป็นข่าวฉาวเกี่ยวกับเรื่องเมียน้อย บางครอบครัวเอารัดเอาเปรียบ เหยียดหยามคนที่ต่ำกว่า พาลูกไปกินข้าวในร้านอาหารแพง ๆ ด่าว่าบริกรที่มาบริการอย่างไม่รักษาน้ำใจก็มีให้เห็นตลอด                 ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวแบบไหน…

Continue Reading

สังคม

หยุดปัญหาสามีมีกิ๊ก เพราะผู้หญิงยุคใหม่ ทำอะไรได้มากกว่าการเป็นนางแจ๋วอยู่บ้าน

หมดยุคเดิม ๆ ที่ผู้หญิงจะต้องมานั่งทำงานบ้านเป็นนางแจ๋ว ปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนดูโทรม ทำงานรับใช้สามีแบบถวายชีวิต หุงข้าว ทำกับข้าว กวาดถูบ้าน ซักผ้ารีดผ้า เป็นต้น จนลืมคิดไปหรือเปล่าว่า นี่มันยุคอะไรกันแล้ว สามีออกไปทำงานนอกบ้าน เจอผู้หญิงสวย ๆ งาม ๆ บันเทิงตา แต่พอกลับมาถึงบ้านก็เจอนางแจ๋วโทรม ๆ ซ้ำซากจำเจ ถ้ายังไม่เกิดการนอกลู่นอกทางไปมีกิ๊กก็ดีไป แต่อย่ารอให้มันเกิดก่อนเลย เพราะสามีคุณเป็นแค่ปุถุชน หากมีผู้หญิงสวยงามแปลกใหม่เข้ามา กิเลสก็จะกำเริบจนลืมคำว่า “ศีลธรรม” กันง่าย ๆ คนที่จะต้องมานั่งช้ำใจจนปางตายก็คือคุณ และไม่ต้องไปตัดพ้อโทษโชคชะตาว่าทำดีแทบตายแต่ไม่ได้ดี เพราะความดีกับกิเลสมันคนละเรื่องกัน ฉะนั้นได้เวลาปฏิวัติตัวเองใหม่แล้ว อย่าเป็นแค่นางแจ๋วอยู่บ้าน แต่จงเป็นเจ้าหญิงในบ้านที่สวยเลอค่าในสายตาของสามีอยู่เสมอ ไปดูกันว่าผู้หญิงยุคใหม่ทำอะไรได้มากกว่าเป็นนางแจ๋วอยู่บ้าน 1.สวยตั้งแต่หัวจรดเท้า ลองเปลี่ยนทรงผมและสีผมให้ดูแปลกตาไปจากเดิม อาจตัดสั้นม้วนปลายก็เก๋ดี ลองหัดแต่งหน้าบ้าง เสื้อผ้าก็เปลี่ยนแนวเซ็กซี่บ้างอย่าให้จำเจ รวมถึง รูปร่างสัดส่วนต้องดูแลให้เป๊ะอยู่เสมอ ขัดผิวบ้าง บำรุงผิว กินวิตามินเสริมเพื่อความงาม ทำเล็บ ดูแลเล็บและร่างกายให้สะอาดอยู่เสมอ ใช้โรลออนกลิ่นอ่อน ๆ เย้ายวนบ้าง 2.ทำงานที่ตนเองถนัดและสามารถทำได้  อาจเป็นงานขายของออนไลน์ก็ได้ หรืองานอดิเรกที่คุณชอบเพื่อเพิ่มคุณค่าและเสน่ห์ในตัวคุณ 3.ทำงานบ้านแบบไม่หัวปรักหัวปรำ ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ทำงานบ้าน แต่หมายถึงทำงานบ้านได้แบบไม่บกพร่อง ขณะเดียวกันก็ต้องแบ่งเวลามาดูแลตัวเองหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ด้วย…

Continue Reading