สุขภาพ

เครียดบ่อยทำอย่างไรดี 8 วิธีนี้ช่วยคุณได้

ความเครียดส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงความเครียดให้ได้มากที่สุด ซึ่งวันนี้เราก็มี 8 วิธีคลายเครียดมาแนะนำเช่นกัน รับรองเลยว่าทำแล้วได้ผลอย่างแน่นอน มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีวิธีอะไรบ้าง 1.เล่นโยคะวันละครั้ง การเล่นโยคะเป็นวิธีการออกกำลังกายที่จะช่วยสร้างความผ่อนคลายและลดความเครียดได้ดี โดยเฉพาะท่าวิปริตกรณี ที่ทำเพียงวันละครั้ง ก็จะช่วยจัดการกับความเครียดให้หมดไปได้อย่างง่ายดาย และยังช่วยควบคุมอารมณ์ให้สงบ มีความคงที่มากขึ้นอีกด้วย 2.ดื่มชาเขียวร้อน ๆ ด้วยกลิ่นหอมของชาเขียวจะทำให้เกิดความผ่อนคลายและสดชื่น ดังนั้นการดื่มชาจึงเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยคลายเครียดได้เป็นอย่างดี แต่ควรเลือกดื่มชาที่ไม่ใส่น้ำตาลจะดีต่อสุขภาพมากที่สุด และต้องดื่มในปริมาณที่พอเหมาะด้วย 3.ฟังเพลงที่ชอบ เมื่อรู้สึกเครียด การฟังเพลงที่ชอบก็จะช่วยลดความเครียดได้ดีเช่นกัน เพราะเสียงเพลงจะทำให้สมองสั่งให้มีการหลั่งสารแห่งความสุขออกมามากขึ้น แต่กรณีที่เครียดเพราะอกหักหรือกำลังเศร้า ไม่ควรฟังเพลงที่มีเนื้อหาเศร้า ๆ เด็ดขาด 4.เล่นกับสัตว์เลี้ยง ต้องบอกเลยว่าการเล่นกับสัตว์เลี้ยง จะทำให้ความเครียดลดน้อยลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะด้วยความน่ารักและขี้อ้อนของสัตว์เลี้ยง จะทำให้คุณหลงใหลไปกับพวกมันจนลืมความเครียดไปนั่นเอง ซึ่งใครที่มักจะเครียดกับการทำงานหรือการกดดันเกินไปกับ VWIN เป็นประจำ ก็ลองหันมาเล่นกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรดกันดู 5.หาโอกาสไปเที่ยวพักผ่อน การไปเที่ยวก็เป็นอีกวิธีที่จะทำให้คุณบอกลาความเครียดได้อย่างง่ายดาย เพราะคุณจะได้พักผ่อนทั้งกายและใจ ทั้งยังมีความสุขจากการได้ท่องเที่ยวพักผ่อนมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ก็ขอแนะนำให้ไปเที่ยวตามสถานที่ธรรมชาติจะดีที่สุด เพราะบรรยากาศและกลิ่นอายของความเป็นธรรมชาติจะช่วยสร้างความผ่อนคลายได้ดีทีเดียว 6.หายใจคลายเครียด การหายใจเพื่อคลายเครียดจะต้องหายใจให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากที่สุด โดยหายใจลึก ๆ ช้า ๆ แล้วค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกมา ซึ่งควรฝึกหายใจแบบนี้เป็นประจำจนเกิดความเคยชิน เพื่อให้สามารถลดความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด 7.ไปสังสรรค์กับเพื่อนบ้าง บางครั้งการอยู่คนเดียวหรือมุ่งกับการทำงานมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดความเครียดได้ ดังนั้นควรไปสังสรรค์กับเพื่อนบ้าง ซึ่งก็เป็นการผ่อนคลายอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลดีมากทีเดียว และยังเป็นการสร้างความสุขให้กับตัวเองอีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรไปสังสรรค์บ่อยเกินไป…

Continue Reading

สุขภาพ

5 สิ่งดี ๆ เกี่ยวกับการเป็นโรคซึมเศร้า

ด้วยปัญหาเรื้อรังทางสังคม โครงสร้างสังคม วัฒนธรรม ประสบการณ์ในวัยเด็ก กระบวนการคิดของผู้ป่วย หรือสารเคมีในสมองที่ไม่สมดุลก็ตามแต่ประชาชนทั่วโลกป่วยเป็นโรคซึมเศร้ากันมากขึ้น ซึ่งโรคซึมเศร้าถือเป็นโรคทางจิตเวชที่พบได้บ่อยมาก ๆ ซึ่งเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย ทุกอายุ และทุกอาชีพ สื่อต่าง ๆ และหลาย ๆ หน่วยงานออกมาให้ความรู้แก่ประชาชนเพื่อทำความเข้าใจกับผู้ป่วยซึมเศร้าเพื่อให้มีชีวิตร่วมกันในสังคมได้อย่างง่ายดายและมีความปกติสุขมากขึ้น  ทั้งนี้การประกาศและป้อนข้อมูลให้แก่คนในสังคมเป็นเรื่องดีก็จริง แต่ผู้ป่วยเองก็ต้องทำความเข้าใจกับสิ่งที่ตัวเองกำลังเผชิญและพื้นฐานความรู้สึกนึกคิดของคนในสังคม รวมถึงโครงสร้างในสังคมด้วยว่าเป็นมาอย่างไร การจะให้คนทั้งโลกมาเข้าใจเราย่อมยากกว่าการที่เราเข้าใจตัวเองอยู่มาก การเป็นโรคซึมเศร้ามีผลมาจากทั้งในเรื่องของสารสื่อประสาทในสมองและกระบวนการคิด การมองโลกของผู้ป่วยเองด้วยถือได้ว่าเป็นโรคที่ต้องร่วมมือกับคณะแพทย์ทั้งในด้านการรักษาทางเทคนิค ทางจิตใจและจิตวิญญาณ  แม้ว่าโรคนี้จะเป็นโรคที่นำความเสียหายมาสู่สังคม แต่ทุกเรื่องย่อมมีด้านมืดด้านสว่าง เรื่องที่ไม่ดีก็ย่อมมีเรื่องที่ดีซ่อนอยู่เสมอ การซึมเศร้าทำให้มีการคิดวิเคราะห์ที่ดีมากยิ่งขึ้น จากการศึกษาพบว่าเมื่อเป็นโรคซึมเศร้าผู้ป่วยจะมีวิธีมองปัญหาที่แตกต่างไปจากเดิมโดยผู้ป่วยจะสามารถสับย่อปัญหาที่ยุ่งยากซับซ้อนออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและค่อย ๆ พิจารณาทีละจุด โดยเมื่อมีแบบทดสอบให้ทำผลปรากฏว่าผู้ป่วยโรคซึมเศร้าทำได้ดีกว่าผู้ที่ไม่ป่วยและยังสามารถแก้ไขปัญหาทางสังคมได้ดีกว่าอีกด้วย เช่น ปัญหาการนอกใจ โรคซึมเศร้าทำให้โฟกัสได้มากขึ้น การใคร่ครวญ ย้ำคิดย้ำทำถือว่าเป็นอีกอาการในแง่ลบอาการหนึ่งของการป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและเป็นจุดสำคัญที่ต้องรักษา แต่ผู้เชี่ยวชาญค้นพบว่าการใคร่ครวญของผู้ป่วยก็ส่งผลดีได้เหมือนกันซึ่งหมายความว่าผู้ป่วยจะมีจิตใจจดจ่ออยู่เพียงเรื่องเดียวในใจในขณะนั้น อาการซึมเศร้าช่วยให้ผู้ป่วยมีจุดโฟกัสเพียงจุดเดียวและพิจารณาเฉพาะปัญหาที่สำคัญและเร่งด่วน คุณมีการตระหนักรู้ในตัวตนตัวเองมากขึ้น การเป็นโรคซึมเศร้าทำให้เราหันมาใส่ใจสุขภาพจิตของตัวเองมากขึ้น มีเวลาคิด ทบทวน ใคร่ครวญ ว่าตัวเองต้องการอะไร ตัวเองเป็นใคร และทำให้ค้นพบคำตอบนั้นได้ ทำให้รู้มีความสุขกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตได้มากขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยต้องปรึกษาแพทย์และเข้าร่วมการบำบัดกับนักจิตวิทยาหรือเข้าร่วมกลุ่มบำบัด ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้เป็นการฝึกจิตใจและสมองของผู้ป่วยให้มองโลกในอีกมุมนึงที่ไม่เคยมอง ได้เห็นค่าสิ่งเล็กน้อยที่ไม่เคยเห็น และมองเห็นค่าความสวยงามของโลกใบนี้ในชีวิตประจำวัน ทำให้เข้าใจคนอื่นและเห็นใจคนอื่นมากขึ้น เมื่อคุณเป็นโรคซึมเศร้านั่นหมายความว่าคุณต้องต่อสู้และเผชิญกับโรคที่เป็นอยู่และได้รู้ว่าการมีโรคประจำตัวต้องการกำลังใจจากคนรอบข้างมากแค่ไหน สุขภาพกายสัมพันธ์กับสุขภาพจิตอย่างไร เมื่อได้เห็นคนที่ป่วยด้วยโรคเหมือนกันหรือไม่ก็ตามแต่ คุณย่อมเข้าใจและเห็นใจและอยากเป็นกำลังใจให้คนอื่น…

Continue Reading

สุขภาพ

กินไข่เป็นประจำส่งผลต่อร่างกายเราอย่างนี้นี่เอง

การรับประทานอาหารเพิ่มบำรุงร่างกายต้องอาศัยความหลากหลายและอาหารที่ให้คุณค่าทางโภชนาการ เมนูไข่ถือเป็นเมนูสามัญประจำบ้านให้คุณค่าสูง มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายปรุงง่าย อร่อย แม่บ้านทุกที่ทั่วโลกมักจะมีเมนูไข่ไว้ประจำครัว ในอาหารคาวหวานมักจะมีไข่เป็นส่วนประกอบอยู่เสมอ ในตอนเช้าตรู่เราก็กินโจ๊กใส่ไข่ทั้งอิ่มท้อง ทำง่าย ทั้งมีคุณประโยชน์มากมาย ไข่อุดมไปด้วยวิตามิน ทานไข่แค่ 1 ใบก็จะได้วิตามินมากมายที่ช่วยในการบำรุงร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในไข่ 1 ใบประกอบไปด้วยวิตามิน A, B5, B12, B2, B6, D, E, และ K รวมถึงแคลเซียม ฟอสฟอรัสและอื่น ๆ ไข่ถือว่าเป็นอาหารสมองชั้นเลิศ ไข่ประกอบไปด้วยส่วนประกอบที่สำคัญชื่อ โคลีนซึ่งเป็นสารอาหารที่จัดอยู่ในกลุ่มของวิตามินบี ซึ่งเจ้าโคลีนนี้จะช่วยให้เซลล์สมองสุขภาพดีโดยเฉพาะจะช่วยเสริมสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ให้แข็งแรงและสมดุลทำให้สมองทำงานได้อย่างแม่นยำมากขึ้น สารอาหารจากไข่ช่วยบำรุงสายตา ธาตุอาหารที่ได้จากการกินไข่ช่วยให้ดวงตาของคุณสุขภาพดี การมองเห็นเป็นเลิศ โดยไข่ประกอบไปด้วยลูทีนและซีแซนทินที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นกับดวงตาของเรา เช่น ต้อ และโรคจอประสาทตาเสื่อม ไข่ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ไข่เป็นแหล่งอาหารชั้นยอดที่อุดมไปด้วยโปรตีนที่ช่วยให้ร่างกายสร้างเซลล์และทำให้เซลล์เหล่านั้นแข็งแรง ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีหากว่าคุณต้องการสร้างกล้ามเนื้อและอยากมีกระดูกที่แข็งแรง ไข่ช่วยให้คุมน้ำหนักได้ดี หากว่าคุณสังเกตตัวเองเวลาที่เรากินไข่จะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและอิ่มนาน ไข่ช่วยให้เด็กในครรภ์ของมารดามีพัฒนาการที่ดี ถือได้ว่าไข่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของหญิงตั้งครรภ์ทั้งวิตามินและเกลือแร่ในไข่ช่วยให้ทารกมีพัฒนาที่เป็นไปตามวัยและยังช่วยให้สมองของทารกพัฒนาอย่างเต็มที่อีกด้วย ไขมัน เอชดีแอล (HDL) หรือไขมันดีในไข่ช่วยลดความเสี่ยงของอาการการอุดตันของเส้นโลหิตที่ไปเลี้ยงสมอง และป้องกันโรคอื่น ๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น ไข่ช่วยลดอันตรายของไขมันเลวหรือแอลดีแอล (LDL) ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลตัวร้ายที่ร่างกายไม่ต้องการ จะเห็นได้ว่าการบริโภคไข่มีประโยชน์มากมายต่อร่างกายแต่การจะบริโภคไข่ให้ได้ประโยชน์สูงสุดจะต้องบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมของคนในแต่ละวัยซึ่งผู้เชี่ยวชาญก็ได้แนะนำปริมาณที่ควรบริโภคต่อวันของคนในวัยต่าง ๆ…

Continue Reading

สุขภาพ

7 สัญญาณอันตรายที่ต้องไปเช็คตับด่วน

ตับคืออวัยวะขนาดใหญ่ในร่างกายที่ทำหน้าที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางที่มีทำงานตลอด 24 ชั่วโมงและทำหน้าที่มากกว่า 500 อย่าง เช่น การเก็บขยะและกำจัดของเสีย การรับวัตถุดิบ การแจกจ่าย การตรวจสอบคุณภาพ การเก็บรักษาและการผลิต หากว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับอวัยวะชิ้นนี้ก็จะส่งผลกระทบต่อส่วนอื่น ๆ ในร่างกายของเราด้วยเพราะฉะนั้นการดูแลตับของเราให้แข็งแรงจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเมื่อตับของเราทำงานผิดปกติ ร่างกายจะส่งสัญญาณเตือนภัยมาที่เราและเราสามารถสังเกตตัวเองได้ดังนี้ ตาเหลือง อาการตาเหลืองเป็นอาการที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าตับของเราสุขภาพไม่ดีและอาจเป็นสัญญาณของโรคตับทั้งหลายซึ่งสาเหตุมาจากน้ำดีไหลเวียนได้ไม่ดีนั่นเอง ท้องของคุณเต็มไปด้วยของเหลวที่คุณรับรู้ถึงมันได้ ถ้าหากว่าอยู่ ๆ ท้องของคุณก็เหมือนลูกโป่งที่เต็มไปด้วยน้ำ โดยผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวว่า หากความดันเลือดของเส้นเลือดรอบ ๆ ตับเพิ่มขึ้นจะทำให้ของเหลวในท้องน้อยเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน เป็นเรื่องที่สำคัญที่จะต้องแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคโดยด่วน คุณมีอาการคันไม่หยุด หากตับทำงานผิดปกติจะก่อให้เกิดอาการคันทั่วร่างกายได้ โดยผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยว่ามันเกี่ยวเนื่องมาจาก น้ำดีนั่นเองโดยน้ำดีคือน้ำย่อยที่ผลิตออกมาจากตับ ซึ่งในผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการของโรคตับแข็งทางเดินน้ำดี จะมีอาการคันตามตัว คุณรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา หากว่าคุณเหนื่อยตลอดเวลานอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ นี่เป็นสัญญาณว่ามีสิ่งผิดปกติในร่างกายเกิดขึ้น ซึ่งโรคตับอาจจะเป็นสาเหตุของปัญหาที่แท้จริง คุณดื่มเป็นประจำ เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำส่งผลร้ายต่อร่างกายโดยตรงและเป็นสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้เป็นโรคตับแข็ง ตับนั้นเป็นอวัยวะที่ทำงานโดยการขับสารเคมีและสารพิษส่วนเกินออกจากร่างกาย การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างหนักเป็นประจำทำให้ตับต้องทำงานหนักมากขึ้น คุณมีน้ำหนักเกิน การมีน้ำหนักเกินหรืออ้วนส่งผลเสียมากกว่าการมีบุคลิกภาพที่ไม่ดี แม้ว่าคุณจะไม่ได้ดื่มแอลกฮอล์แต่หากว่าตับของคุณมีไขมันเกาะอยู่รอบ ๆ โรคภัยยิ่งเข้ามากล้ำกรายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งบางครั้งก็อาจนำไปสู่การเป็นโรคตับแข็งได้เหมือนกัน คุณรู้สึกสับสนและขี้ลืมบ่อยมาก ๆ หากว่าอยู่ ๆ คุณก็สับสนอยู่เสมอโดยไม่ทราบสาเหตุอย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าตัวเองแค่เอ๋อชั่วขณะ โรคสมองจากตับเป็นสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อตับไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อกำจัดของเสียออกจากร่างกาย ซึ่งต้องพบแพทย์โดยด่วน การรักษาสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคจำเป็นมากที่จะต้องสังเกตตัวเราและคนที่คุณรักอยู่เป็นเป็นประจำ โดยอาการดังกล่าวเป็นอาการที่พอจะสังเกตุได้ซึ่งก็ต้องอาศัยการวินิจฉัยและการตรวจเช็คอย่างละเอียดจากทีมแพทย์ เมื่อมีอาการที่เข้าข่ายก็ไม่ควรนิ่งนอนใจหรือตกใจเกินเหตุและให้ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วจะดีที่สุด

สุขภาพ

นอนอย่างไรไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ

เป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่าเพื่อให้ร่างกายเราได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอและสุขภาพอนามัยที่แข็งแรง เราจะต้องนอนทุกวันอย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมง ในระหว่างที่เรานอน ร่างกายจะพักผ่อนและฟื้นฟูส่วนที่สึกหลอ สมองเองก็จะจัดระเบียบและเรียบเรียงข้อมูลที่เรารับเข้ามาตลอดทั้งวันเพื่อให้สามารถเรียกข้อมูลที่มีอยู่ออกมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในวัยเด็กและวัยหนุ่มสาวการนอนยังช่วยผลิตฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ระบบเผาผลาญก็ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ว่ากันได้ว่าการนอนเป็นการตอบแทนร่างกายของเราอีกอย่างหนึ่งที่ดี แต่ว่าการนอนที่ไม่ถูกวิธีก็มีผลเสียที่ตามมาแทนที่จะเป็นการตอบแทนร่างกายเรา การนอนกลายเป็นการทำร้ายร่างกายโดยที่เราไม่รู้ตัว มาดูกันว่าการนอนแบบไหนที่เราควรหลีกเลี่ยงเพื่อให้การนอนเป็นกิจกรรมที่ส่งผลดีต่อตัวเราเองอย่างสูงสุด วางมือไว้บนหน้าผาก เวลานอนหลาย ๆ คนก็วางมือไว้บนหน้าผาก ซึ่งการทำแบบนี้เป็นการทำลายผิวและสุขภาพ ซึ่งหน้าผากส่วนที่ถูกกดลงไปอาจเกิดผลกระทบต่อความยืดหยุ่นของผิดและอาจก่อให้เกิดริ้วรอยได้ ยิ่งไปกว่านั้นแรงกดบนหน้าผากอาจทำให้ปวดหัว ตื่นบ่อย หรือรู้สึกชาได้ด้วย หนุนหมอนสูงเกินไป หากขณะนอนหลับเราหนุนหมอนสูงเกินไป จะทำให้เกิดความดันที่เข่าขณะนอนหลับเพราะการนอนท่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการไหลเวียนของเลือด อีกทั้งการนอนหมอนที่สูงเกินไปสามารถลดคุณภาพของการนอนลง ดังนั้นจึงควรเลือกหมอนและท่านอนที่ไม่ทำให้ระดับช่วงตัวและส่วนหัวแตกต่างกันมากเกินไป ฟังเพลงขณะหลับ หลาย ๆ คนมักจะฟังเพลงก่อนเข้านอนและใส่หูฟังหรือเปิดเพลงค้างไว้ในขณะที่หลับทำให้เกิดภาวะขาดการนอนหลับ อาการครึ่งหลับครึ่งตื่น หรือฝันร้ายได้ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการปวดหัวเมื่อตื่นขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงอาการดังกล่าว คุณควรปิดเพลงก่อนนอน ร่างกายและสมองจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ มัดผมแน่นเกินไป สำหรับสาว ๆ หลายคนที่ มักจะมัดผมตอนนอนเพราะไม่อยากให้ผมมาพันหน้า หรือไม่อยากให้น้ำมันที่ใส่ผม หรือแบคทีเรียในเส้นผมมาโดนที่ใบหน้าซึ่งการกระทำดังกล่าวก่อให้เกิดอันตรายกับหนังศีรษะ ถ้าหากว่ามัดแน่นเกินไป ดังนั้นหากต้องการมัดผมตอนนอนให้มัดอย่างหลวม ๆ เพื่อป้องกันอันตรายต่อหนังศีรษะและหลีกเลี่ยงไม่ให้มีอาการปวดหัวหลังตื่นนอน นอนคว่ำหน้า สำหรับหลาย ๆ คน การจะนอนหลับให้สบายนั้นต้องนอนในท่านอนคว่ำหน้าเท่านั้น แต่การนอนในท่านี้จะทำให้เกิดแรงกดทับที่แก้มระหว่างหลับซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความยืดหยุ่นของผิวและอาจก่อให้เกิดริ้วรอยตามมา อีกทั้งการนอนในลักษณะนี้ยังทำให้ความสกปรกจากหมอนมาโดนหน้าเราอีกด้วย ในระยะยาวแล้วการนอนแบบนี้ก่อให้เกิดปัญหาที่รุนแรงของสุขภาพกายและสุขภาพผิว                 เมื่อได้อ่านมาจนถึงตอนนี้แล้ว ลองสำรวจกันดูว่าท่านอนที่เรานอนอยู่เป็นประจำทำร้ายตัวเองโดยที่เราไม่รู้ตัวหรือไม่…

Continue Reading

สุขภาพ

โทษของการดื่มน้ำเปล่าไม่เพียงพอ

สมัยนี้การเกิดโรคภัยไข้เจ็บไม่ได้จำกัดอยู่แต่กับผู้สูงวัยอีกต่อไปแล้ว เพราะสภาพสังคมเปลี่ยนไป การเลือกรับประทานอาหาร หรือพฤติกรรมการกินเปลี่ยนไป จึงทำให้เกิดโรคภัยตามมาได้ง่าย ซึ่งวิธีการดูแลตัวเองง่าย ๆ ที่ บุคลากรทางการแพทย์ได้ออกมาเน้นย้ำกับประชาชนเสมอนั่นก็คือ การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อวัน โดยเฉลี่ยให้ดื่มประมาณวันละ 8 – 10 แก้ว การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างการสามารถรักษาสมดุลไว้ได้เนื่องจากร่างกายคนเรามีส่วนประกอบของน้ำถึง 2 ใน 3 ของมวลรวมทั้งหมด และในโรคบางโรคเองก็สามารถป้องกันได้โดยการดื่มน้ำให้เพียงพอ ซึ่งเราจะเห็นได้จากชายจีนผู้นี้ ชายผู้หนึ่งอายุ 55 ปีอาศัยอยู่ในประเทศจีนมีอาการเจ็บปวดตรงช่วงอกและไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็คซึ่ง 10 ปีก่อนหน้านี้เขาก็เคยตรวจเจอนิ่วในไตในตอนนั้นเขาไม่ได้มีอาการเจ็บปวดและเลือกที่จะไม่สนใจมันและในตอนนี้อาการของเขาแย่ลงเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อเขาได้ตรวจเช็คกับทางโรงพยาบาลแล้วปรากฏว่าไตของเขาเต็มไปด้วยนิ่วซึ่งต่อมาผู้ป่วยเองเปิดเผยกับทีมแพทย์ว่าตนได้กินเต้าหู้เป็นประจำ คุณหมอได้อธิบายว่าในกรณีนี้เป็นเคสที่รุนแรงมากที่ไตข้างซ้ายไม่สามารถขับปัสสาวะออกมาได้ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไปไตของเขาจะไม่สามารถใช้งานได้อีกเลย เมื่อได้ยินดังนั้นคนไข้ตอบตกลงเข้ารับการผ่าตัดทันที และทีมแพทย์ต้องประหลาดใจเป็นอย่างมากเมื่อพบนิ่วถึง 420 อันในการผ่าตัดที่ใช้เวลาไปทั้งสิ้น 45 นาที คณะแพทย์ผู้รักษาเปิดเผยว่านี่เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีที่เจอเคสรักษาแบบนี้ โดยนิ่วที่ได้ผ่าตัดออกมีหลายขนาดแตกต่างกันและนิ่วได้สร้างความเสียหายอย่างมากให้กับไตของผู้ป่วย ทีมแพทย์ยังบอกอีกว่าเต้าหู้ทุกวันนี้เต็มไปด้วยยาฟอกและสามารถก่อให้เกิดนิ่วได้ ยิ่งในคนที่ไม่ค่อยดื่มน้ำแล้ว ร่างกายก็ไม่สามารถขับนิ่วเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นออกจากร่างกายได้เองตามธรรมชาติ เห็นได้ชัดว่าในกรณีนี้ผู้ป่วยมีพฤติกรรมเลือกรับประทานอาหารที่มีความเสี่ยงบวกกับดื่มน้ำน้อยทำให้สารละลายในไตมีความเข้มข้นสูงมากขึ้นและร่างกายไม่สามารถกำจัดสิ่งไม่จำเป็นออกจากร่างกายได้ด้วยกระบวนการทางธรรมชาติจึงทำให้ชายผู้นี้ป่วยด้วยโรคนิ่วในไต โรคนี้มีความน่ากลัวอยู่จริงแต่ก็มีวิธีการรักษา และที่ดีไปกว่านั้นยังมีวิธีการป้องกันการเกิดโรคที่สามารถทำได้อย่างง่ายดาย นั่นคือ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์มีกากใยสูง ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอย่างเป็นประจำ ลดอาหารที่มีกรดยูริกสูง เช่น หนังสัตว์ ปีก ตับ ไต เราทั้งพยายามลดเครื่องดื่มที่มีแคลเซียมออกซาเลตสูง เช่น ชา กาแฟ…

Continue Reading

สุขภาพ

ข่าวดีคนไทย เอาสารความแก่ออกจากร่างกาย จากการคิดค้นของศาสตราจารย์ญี่ปุ่น

นับว่าเป็นข่าวดีที่เป็นกระแสมาแรงมาก ๆ ตอนนี้ สำหรับคนไทยที่จะมีสุขภาพดี อายุยืนและดูอ่อนกว่าวัยได้ ด้วยการคิดค้นวิจัยจากศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงจากประเทศญี่ปุ่น ในการนำเอาสารความแก่ออกจากร่างกาย ด้วยวิธีการที่ง่าย จากการปรับอาหารการกิน และการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ซึ่งวันนี้เราได้นำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่าง ๆ มาให้คนไทยได้นำไปใช้ให้มีสุขภาพดีกันทั่วหน้า มีอะไรบ้างไปดูกันเลย สารความแก่หรือที่เรียกว่า AGE เป็นสารที่เกิดขึ้นจากการที่เรากินอาหารที่มีโปรตีนและน้ำตาลเข้าไปในปริมาณที่มากเกินความจำเป็นของร่างกาย โดยปกติแล้ว โปรตีน+น้ำตาล ในปริมาณที่ร่างกายต้องการ จะทำให้เกิดประโยชน์ แต่โปรตีน+น้ำตาลในส่วนที่เกินความจำเป็น เมื่อเข้าสู่ร่างกายในอุณภูมิที่ 37°C จะก่อตัวเป็นสารความแก่ ทำร้ายให้ร่างกายเสื่อมโทรมและแก่เร็ว ซึ่งศาสตราจารย์คนนี้ก็ได้มีวิธีการลดสาร AGE ในร่างกายลง ด้วยการปรับอาหารการกิน คือ ให้ทานผักผลไม้ก่อน แล้วค่อยทานเนื้อสัตว์ ตามด้วยข้าว เพราะข้าวจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้รวดเร็ว กว่าจะอิ่มข้าวน้ำตาลก็จะสูงมาก วิธีการนี้จะช่วยให้ร่างกายสร้างสาร AGE ได้น้อยลง ให้สังเกตุดูถ้าอายุน้อยแต่หน้าแก่ ก็แสดงว่า มีสาร AGE เยอะ การชะลอความแก่จากสาร AGE 1.ทานอาหารที่มี AGE น้อย ๆ ไม่ทานเยอะเกินไป 2.กินผักผลไม้ก่อนแล้วค่อยตามด้วยเนื้อสัตว์และข้าว 3.ออกกำลังกายสม่ำเสมอและดื่มน้ำให้เพียงพอ 4.ทำจิตใจให้แจ่มใสมีความสุข ไม่เครียด 5.พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 5 ชม.ขึ้นไป 6.ไม่สูบบุหรี่ เพราะเป็นการนำเอาสารพิษเข้าร่างกาย…

Continue Reading

สุขภาพ

ล้างสารพิษในร่างกายด้วย 3 สูตรธรรมชาติ จากนักธรรมชาติบำบัดที่มีชื่อเสียง

ธรรมชาติมักจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเราเสมอ ไม่ว่าจะเป็นพืชผัก ผลไม้ น้ำ อากาศ แร่ธาตุต่าง ๆ ที่ล้วนมีประโยชน์และคุณค่าต่อร่างกายทั้งนั้น แต่มนุษย์ส่วนใหญ่มักทำผิดต่อธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดยาฆ่าแมลงไปในพืชผักผลไม้เพื่อธุรกิจ หรือการปล่อยของเสียไปในแม่น้ำหรืออากาศ เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุให้ธรรมชาติเปลี่ยนไปจากเดิม และผลเสียที่ตามมาคือคนอายุสั้นขึ้น จากอาหารการกิน การสูดเอาอากาศเป็นพิษเข้าไป ซึ่งรวมถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ การได้รับสารเคมีต่าง ๆ เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะไปรักษากันที่ปลายเหตุโดยรอให้อาการหนักถึงจะไปพบแพทย์ ซึ่งอาจสายเกินไปเสียแล้ว และถึงแม้เราจะทำลายธรรมชาติยังไง แต่ธรรมชาติก็ยังหวังดีและมอบสิ่งที่ดีให้เราเสมอ วันนี้เราจึงได้นำเอาสูตรล้างสารพิษในร่างกายจากธรรมชาติ ด้วยการคิดค้น จาก อ.สุทธิวัสส์ คำภา นักธรรมชาติบำบัดที่มีชื่อเสียง มาฝากกันค่ะ 3 สูตรล้างสารพิษในร่างกาย 1.เห็ด 3 อย่าง เช่น เห็ดหอม เห็ดฟาง เห็ดหูหนูขาว หรือเห็ดอะไรก็ได้มาต้มน้ำรวมกัน และนำน้ำเห็ด 3 อย่างมาดื่มเป็นประจำ หรือจะต้มเป็นแกงเลียงเห็ด 3 อย่างก็ได้ แต่ห้ามผัดหรือทอด ซึ่งมีการวิจัยพบว่าอนุพันธ์ของเห็ด 3 อย่างจะถักทอรวมกันไปล้างสารพิษ จำพวก ซีสต์ เนื้องอก สารก่อมะเร็ง ออกไปจากร่างกายได้ ทำให้สุขภาพดีขึ้นและผิวพรรณก็ดูสดใสขึ้นด้วย…

Continue Reading

สุขภาพ

คุณรู้จักไบโพลาร์ โรคยอดฮิตในยุคปัจุบันแล้วหรือยัง

ไบโพลาร์ คือโรคอารมณ์สองขั้วที่ประชากรในสหรัฐอเมริกาเป็นกันมากถึง 600,000 คน และส่วนใหญ่มีอาการถึงขั้นรุนแรง ซึ่งในยุคปัจุบันนี้ ไบโพลาร์ได้กลายเป็นโรคยอดฮิตไปแล้วในทุก ๆ ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง การทำงานของสมองที่เกี่ยวกับการควบคุม ระบบฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกาย รวมถึงการนอนหลับที่ผิดปกติ ซึ่งสิ่งที่ไปกระตุ้นให้โรคไบโพลาร์แสดงอาการออกมาได้ คือ ความเครียด หรือการได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง โดยไม่สามารถแก้ปัญหาชีวิตหรือออกมาจากความทุกข์ของปัญหาที่เกิดขึ้นได้ จนเกิดความผิดปกติทางอารมณ์ขึ้นมา ซึ่งพบบ่อยในครอบครัวที่มีผู้ป่วยเป็นไบโพลาร์มากกว่าครอบครัวปกติทั่วไป อาการของผู้ป่วยโรคไบโพลาร์ จะมี 2 ช่วง คือ 1.ช่วงอารมณ์ซึมเศร้าตลอดเวลา ผู้ป่วยจะรู้สึกเบื่อหน่าย ท้อแท้สิ้นหวัง และไม่อยากทำอะไรติดต่อกันประมาณ 2 อาทิตย์ นอกจากนี้จะนอนไม่หลับ กระวนกระวาย น้ำหนักตัวลดลงและเบื่ออาหาร ทำอะไรเชื่องช้า ไม่มีแรง รู้สึกไร้ค่าและมองโลกในแง่ลบ บางรายถึงขั้นรุนแรงอาจคิดฆ่าตัวตายได้ 2.ช่วงอารมณ์ดีหรือคึกคักมากกว่าปกติ ผู้ป่วยจะมีความสุข ร่าเริง เบิกบานใจ มีความมั่นใจในตัวเองสูงเกินไป นอนน้อยลง ความคิดแล่นเร็ว คิดหลายเรื่องได้พร้อม ๆ กัน พูดเร็วขึ้น วอกแวก ทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดเวลา ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ดื่มสุรามาก ใช้โทรศัพท์มาก เล่นการพนันและใช้เงินเก่ง…

Continue Reading

สุขภาพ

“เสาวรส” ผลไม้คุณค่าสูง มนุษย์สายสุขภาพรู้จักกันดี

เสาวรส หรือ Passionfruit  เป็นไม้เถาเลื้อยคล้ายตำลึง มีดอกสีขาวแซมด้วยริ้วสีม่วง ผลเป็นรูปกลม ผลอ่อนสีเขียว เมื่อสุกจะมีหลายสีแล้วแต่สายพันธุ์ ทั้งสีม่วงและเหลือง ภายในมีเมล็ดสีดำจำนวนมาก มีรสเปรี้ยวอมหวาน ถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ บริเวณประเทศบราซิล สำหรับประเทศไทยนั้นมีแหล่งปลูกอยู่หลายจังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย เพชรบูรณ์ ระยอง ตราด ปราจีนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี เป็นต้น ทั่วโลกรู้จัก “เสาวรส”                 ดังที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าเสาวรสไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากไทย ซึ่งหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเสาวรสมีต้นกำเนิดทางภาคเหนือของไทย แท้จริงแล้วเสาวรสนั้นมีต้นกำเนิดมาจากประเทศในทวีปอเมริกาใต้ และแพร่กระจายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ สามารถปลูกได้ในพื้นที่ที่มีภูมิประเทศและภูมิอากาศที่คล้ายคลึงกับอเมริกาใต้ เมื่อเสาวรสเป็นที่นิยมมากขึ้น จึงมีการเพาะปลูกเพื่อขยายพันธุ์เพิ่มขึ้น และไม่เพียงแต่นำมารับประทานสด ๆ เท่านั้น เสาวรสยังถูกนำไปแปรรูปและใช้ประกอบอาหารต่าง ๆ เสาวรสถูกใช้แทนมะนาว และยังนำมาทำเป็นมูสเสาวรสในประเทศบราซิล ส่วนฝั่งอเมริกาเหนือในฮาวายใช้เสาวรสทำอาหารหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น แยม เยลลี่ คุกกี้ และไอศครีม ฝั่งนิวซีแลนด์และออสเตรเลียก็มีผลิตภัณฑ์จากเสาวรสเช่นกันคือ น้ำอัดลมรสชาติเสาวรส ในเปอร์โตริโกประชากรนิยมทานเสาวรสสดเพื่อลดความดันโลหิต และเวียดนามนิยมทานกับน้ำผึ้งและผสมน้ำแข็ง เพื่อดับกระหายคลายความร้อน จะเห็นว่าความนิยมของเสาวรสนั้นมีอย่างมหาศาลจากคนทั่วโลก ส่วนใหญ่ใช้ทำอาหารเพราะเสาวรสมีความเปรี้ยว ซึ่งเหมาะแก่การปรุงกับส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อรสชาติที่กลมกล่อมสดชื่นยิ่งขึ้น คนไทยนิยม “เสาวรส”                …

Continue Reading