สังคม

อยากมีสัตว์เลี้ยง….คิดให้ดีเสียก่อน

การมีสัตว์เลี้ยงสักตัว ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงยอดฮิต เช่น สุนัข แมว ที่มีให้เลือกกันหลายสายพันธุ์ตามความชอบของผู้ต้องการจะเลี้ยงสัตว์ บางคนชอบเลี้ยงปลา เลี้ยงนก เลี้ยงสัตว์ประเภทเลื้อยคลาน หรือสัตว์ใด ๆ ตามความชื่นชอบส่วนตัว ข้อดีของการเลี้ยงสัตว์เป็นที่ทราบกันแล้วว่า สัตว์เลี้ยงช่วยทำให้จิตใจของผู้เลี้ยงหรือคนภายในบ้านผ่อนคลายลงได้ พ่อแม่ที่มักนิยมให้เด็กมีสัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเอง เพื่อให้เด็กมีความรับผิดชอบ บ้านใดเลี้ยงสัตว์ที่เป็นประเภทปลา หรือนก หรือสัตว์เลื้อยคลานตัวเล็ก ๆ ปัญหาต่าง ๆ ไม่ค่อยมีให้เห็นสักเท่าไหร่ แต่หากชอบสัตว์เลี้ยงประเภทสุนัข หรือแมวแล้ว ไม่ว่าจะหาซื้อจากฟาร์มโดยตรง เพราะชื่นชอบเลี้ยงสัตว์พันธุ์แท้มีใบรับประกันสายพันธุ์ อาจจะต้องแลกมาด้วยจำนวนไม่น้อยทีเดียว หรือหากเป็นพันธุ์ผสมที่มีผู้เลี้ยงกันทั่วไปตามบ้าน เมื่อผสมพันธุ์ออกลูกมา เจ้าของก็จะนำมาให้แบบไม่คิดเงินเลย แต่ไม่ว่าราคาค่าตัวของสุนัขหรือแมวจะถูกแพงอย่างไร ภาระความรับผิดชอบของเราก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย  4 ข้อคิดก่อนตัดสินใจเลี้ยงสัตว์  เมื่อเราคิดว่าพร้อมที่จะเลี้ยงสุนัขหรือแมว ต้องเตรียมสถานที่ให้พร้อม ที่นอนหรือที่ขับถ่าย จนตลอดถึงรั้วรอบขอบชิด กั้นสัตว์เลี้ยงของเราไม่ให้ออกไปสร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้าน ต้องฝึกสอนไม่ให้สุนัขส่งเสียงดังเป็นที่รำคาญสำหรับคนที่ไม่ได้ชอบเลี้ยงสัตว์ หรือดูแลแมวที่สามารถกระโดดได้สูง เล็ดลอดออกไปปีนป่ายบนรถยนต์ของเพื่อนบ้านก็มีให้เห็นบ่อยครั้ง จนทำให้เกิดความบาดหมางใจต่อกันระหว่างเพื่อนบ้าน จนอาจจะเลยเถิดเป็นคดีความกันได้ทีเดียว ต้องพาไปฉีดวัคซีนเป็นประจำ ยิ่งเป็นลูกสุนัขหรือลูกแมวแรกเกิด จะมีวัคซีนป้องกันโรคหลายชนิดไม่น้อยไปกว่าเด็กเล็กทีเดียว โดยเฉพาะค่ายาวัคซีนบางครั้งมีราคาแพงกว่าวัคซีนในคนด้วยซ้ำ หากผู้เลี้ยงละเลยการฉีดวัคซีนโดยเฉพาะวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า ที่สามารถเกิดขึ้นในสุนัขหรือแมว หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด ตลอดจนการทำหมันในสุนัขหรือแมว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสุนัขหรือแมวจรจัดเพิ่มขึ้น ต้องรักษาความสะอาดให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ สำหรับสุนัขหรือแมวที่มีขนยาว เราอาจจะต้องนำไปอาบน้ำ ตัดขนที่ร้านหรือตามคลินิก ราคาค่าบริการต่อครั้งตกประมาณตัวละ 300-500…

Continue Reading

สังคม

สยามเมือง (ไม่) ยิ้ม …เมื่ออยู่หลังพวงมาลัย

หลายคนคงเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นกับวิธีการใช้รถใช้ถนนของคนในปัจจุบัน อะไรเกิดขึ้นกับคนไทยที่เคยได้ชื่อว่า “สยามเมืองยิ้ม” คนไทยที่เคยพร้อมจะยิ้ม คนไทยที่พร้อมจะช่วยเหลือให้แก่คนไทยด้วยกัน หรือแม้แต่คนต่างชาติต่างบ้านต่างเมืองของเรา                 เป็นที่น่าเสียใจอย่างมากในฐานะประชาชนชาวไทยคนหนึ่งที่ใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการเดินทางหลัก มันน่าเศร้าใจมากเมื่อเห็นความเห็นแก่ตัวของคนร่วมถนนเดียวกัน ภาพของคนขับรถทั้งสองฝ่ายลงมาทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายกันแบบเอาเป็นเอาตาย ประหนึ่งว่าโกรธแค้นกันมานาน การคุกคามที่ป่าเถื่อนจนแทบจะทนดูไม่ได้ สิ่งเหล่านี้มันเกิดจากอะไร มันเกิดเพราะจิตใจมนุษย์ยุคนี้โหดร้ายขึ้น หรือเกิดจากสภาพการแข่งขันรีบเร่งไปเสียทุกทาง ที่ทำให้เกิดกลุ่มคนขึ้นประเภทหนึ่งที่พร้อมจะเอาเปรียบเพื่อนร่วมทางตลอดเวลา พร้อมที่จะผิดกฎจราจรในทุกข้อหา คนกลุ่มนี้มีเพียงแค่ทักษะการขับรถหรือขับขี่มอเตอร์ไซค์เท่านั้น แต่ขาดจิตสำนึกในการใช้ถนน เช่น การแทรกแซงรถเพื่อเข้าในทางเดินรถที่จะต้องขึ้นสะพาน การฝ่าฝืนสัญญาณไฟ เป็นที่เห็นกันทั่วไปสัญญาณไฟจะมีเวลาระบุเอาไว้ว่ามีคงเหลือในการผ่านแยกสัญญาณไฟกี่วินาที ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ พยายามเร่งเครื่องเพื่อให้ผ่านทางแยกไปในขณะที่สัญญาณขึ้นไฟเหลือง ซึ่งเป็นที่รู้กันทั่วไปว่าเป็นสัญญาณให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วเตรียมพร้อมที่จะหยุดรถได้ทันทีเมื่อเห็นสัญญาณไฟแดงขึ้น แต่ความเป็นจริงที่น่าเศร้าผู้ขับขี่ทั้งหลายไม่มีความคิดจะต้องลดความเร็วเพื่อหยุดรถได้ทันทีเลย กลับเร่งความเร็วมากขึ้นเสียด้วยซ้ำไป จึงได้พบอุบัติเหตุบนท้องถนนตามทางข้ามแยกเป็นประจำแทบทุกวัน บางเหตุการณ์โชคดีมีความเสียหายแค่ทรัพย์สิน แต่บางรายโชคร้ายอาจจะเสียชีวิตทั้งผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร อีกทั้งยังมีผู้ขี่มอเตอร์ไซค์ขี่รถขึ้นไปบนฟุตบาททางเท้า ขี่รถชนผู้เดินบนทางเท้าก็มีให้เห็นเป็นประจำ การขี่รถย้อนศรทางเดินรถ การฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง เหล่านี้ก็ปรากฏให้เห็นจนชินตาทุกวัน ปัญหาเหล่านี้จะยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องยาวนานต่อไป หากผู้มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายยังไม่ตระหนักถึงความเสียหายและสูญเสียที่จะเกิดขึ้น กฎหมายที่ถูกกำหนดบังคับใช้ทั้งหลายมาตราถูกประกาศใช้อย่างต่อเนื่อง ดังที่ปรากฏกันในหน้าจอทีวี แต่ในทางปฏิบัติยังไม่มีการบังคับใช้อย่างสม่ำเสมอและจริงจังเลย หวังว่าทุกฝ่ายจะร่วมกันสร้างจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนน รณรงค์การขับขี่ปลอดภัยให้ทุกคนตระหนักถึงข้อดีและข้อเสียที่จะเกิดขึ้น แต่ยังนับว่าเป็นโชคดีของประเทศไทย ที่มีคนส่วนใหญ่ยังเป็นคนที่มีความเอื้ออารีต่อผู้คนทั่วไป ไม่ลังเลที่จะเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุบนท้องถนน มีความอดกลั้นต่อสิ่งที่ปลุกเร้าให้เกิดอารมณ์โมโหที่จะพาไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งกันบนท้องถนน เราทุกคนยังคงตั้งความหวังให้กับสภาพการจราจร ให้กับการใช้ชีวิตบนท้องถนนว่า สักวันหนึ่ง การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และมีน้ำใจของคนไทย พร้อมจะแบ่งปันการใช้ถนนด้วยกันจะกลับมาอีกครั้งในไม่ช้านี้