Uncategorized

เล่าสู่กันฟัง ฟุตบอลยูโร 2016 สังเวียนแข้งดังระดับยุโรป เปิดศึก ณ ประเทศฝรั่งเศส

ยูโร 2016 หรือ ฟุตบอลแห่งชาติยุโรป 2016 ( 2016 UEFA European Football Championship) เป็น ทัวร์นาเมนท์ ที่ใครๆหลายคนต่างตั้งตารอคอยเพราะเป็นอีก 1 ทัวร์นาเมนต์ที่รับประกันความมันระดับ 5 ดาวรองๆจากฟุตบอลโลกเลยก็ว่าได้ เป็นการรวบรวมทีมชาติชั้นนำในทวีปยุโรปเข้ามาจัดการแข่งขันเพื่อหาสุดยอดทีมชาติแห่งทวีป และในปี 2016 นี้การแข่งขันจัดขึ้นที่ ประเทศฝรั่งเศส และเลือกใช้สนามทั้งหมด 11 แห่ง และ 1 ในสนามที่ยิ่งใหญ่ของฝรั่งเศสที่ใช้จัดแข่งขันนัดชิงชนะเลิศนั้นก็คือ สตาดเดอฟร็องส์ สนามเหย้าของทีมชาติฝรั่งเศส โดยนัดเปิดสนามได้จัดขึ้นเมื่อวันที่  16 มิถุนายน ค.ศ 2016

การแข่งขันครั้งนี้ได้มีการเพิ่มทีมที่ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายจาก 16 ทีมเป็น 24 ทีม ผู้เล่นทั้ง 24 ทีมนั้นจะต้องส่งผู้เล่นลงทำการแข่งขันทั้งหมด 23 คนเข้าร่วม และในชุดผู้เล่นที่ส่งรายชื่อต้องมีผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู 3  คน และต้องส่งรายชื่อผู้เล่นทั้งหมดก่อนการแข่งขัน 10 วัน

ทีมผ่านเข้ารอบ 24 ทีมสุดท้ายยูโร 2016 แบ่งได้ 6 กลุ่ม ได้แก่

กลุ่ม A – ฝรั่งเศส    – สวิตเซอร์แลน   – แอลเบเนีย   – โรมาเนีย

กลุ่ม B  – เวลส์   – อังกฤษ  – สโลวาเกีย  – รัสเซีย

กลุ่ม C  – เยอรมัน  -โปแลนด์  – ยูเครน  – ไอร์แลนด์เหนือ

กลุ่ม D  – โครเอเชีย  – สเปน  – ตุรกี  – สาธารณรัฐเช็ก

กลุ่ม E  – อิตาลี  – เบลเยี่ยม  – สวีเดน  – สาธารณรัฐไอร์แลนด์

กลุ่ม F  – ฮังการี  – โปรตุเกส  – ออสเตรีย  – ไอซ์แลนด์

และการแข่งขันของแต่ละกลุ่มจะแข่งแบบพบกันหมด เพื่อคัด 2 ทีมที่ดีที่สุดในกลุ่มนั้นๆเข้าไปเล่นในรอบต่อไป (และยังมีทีมอันดับ 3 ที่มีคะแนนดีที่สุดอีก 4 ทีมได้ผ่านเข้าไปต่อไปด้วย) และในรอบน็อคเอาท์นั้นจะมีทั้งหมด 16 ทีมเป็นการแข่งแบบแพ้คัดออก ซึ่งทีมที่ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ หรือรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลยูโร 2016 ได้แก่  สวิตเซอร์แลนด์ โปรตุเกส โปแลนด์ โครเอเชีย เวลส์ ไอร์แลนด์เหนือ ฮังการี เบลเยี่ยม เยอรมัน สโลวาเกีย อิตาลี่ สเปน อังกฤษ ไอซ์แลนด์ ฝรั่งเศส สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งเริ่มการแข่งขันในวันที่ 25 มิถุนายม 2016 เพื่อคัดทีมเข้าสู่รอบต่อไป (8 ทีมสุดท้าย) m88.com

ในรอบต่อมานั้น(8 ทีมสุดท้าย)ก็ได้ทีมที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 8 ทีมในวันที่ 27 มิถุนายน 2016 ซึ่งเป็นที่อังกฤษแพ้ให้กับไอซ์แลนด์ 1-0 ในการแข่งขันคู่สุดท้าย ซึ่ง 8 ทีมที่ผ่านเข้ารอบเข้ามานั้นได้แก่ โปแลนด์ โปรตุเกส เวลส์ เบลเยี่ยม เยอรมัน อิตาลี่ ฝรั่งเศส และไอซ์แลนด์ และเริ่มทำการแข่งขันในวันที่ 30 มิถุนายน 2016 เป็นการพบกันระหว่าง โปแลนด์และโปรตุเกส ซึ่งเกมนั้นโปรตุเกสเอาชนะการดวลจุดโทษไปได้ ซึ่งต่อมาในรอบ 4 ทีมสุดท้ายหรือรอบรองชนะเลิศนั้น ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2016 และได้ทีมทั้ง 4 ทีมผ่านเข้ารอบเข้ามาซึ่งได้แก่คู่แรก โปรตุเกส – เวลส์ คู่ที่สอง เยอรมัน-ฝรั่งเศส ซึ่งผลจบลงด้วยชัยชนะของ โปรตุเกส (2-0) และ ฝรั่งเศส (ชนะการดวลจุดโทษ) ทำให้ทั้ง 2 ทีมต้องพบกันในรอบชิงชนะเลิศที่ สตาดเดอฟร็องส์ ในวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งจบเกม 90นาทียังเสมอกัน 0-0 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ และผลลงด้วยชัยชนะของโปรตุเกสด้วยสกอร์ 1 – 0 ทำให้เจ้าภาพต้องผิดหวังในการคว้าแชมป์ และป็นความภาคภูมิใจของชาวโปรตุเกสที่ได้แชมป์ยูโรเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังจากที่เคยได้รองแชมป์ในปี 2004 การแข่งขันของฟุตแห่งชาติยุโรป (ยูโร 2016) ก็ได้จบลงด้วยการฉลองแชมป์ของทีมชาติ โปรตุเกส และ ยูโร 2020 จะเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากจะไม่มีเจ้าภาพและกระจายสนามแข่งขัน ซึ่งจะเป็นยังไงก็ต้องติดตามในอีก 4 ปีข้างหน้า… M88