เศรษฐกิจ

อนุมัติแล้ว!!!! โครงการ SMART Visa สำหรับชาวต่างชาติและผู้ติดตาม อยู่ได้ 4 ปี

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ เห็นชอบขับเคลื่อนโครงการที่สำคัญ  คือ SMART Visa ซึ่งเป็นวีซ่าที่ออกมาเพื่ออำนวยความสะดวกนักลงทุนชาวต่างชาติ และเล็งเห็นว่ามีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในประเทศไทย .

สังคม

เปิดช่องตรวจ Passport อัตโนมัติ สำหรับชาวต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ชาวต่างชาติมีเฮ !! สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเริ่มเปิดให้บริการช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติสำหรับชาวต่างชาติ โดยเปิดใช้งานที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็นแห่งแรก และในอนาคตจะเตรียมเปิดให้ใช้งานที่สนามบินนานาชาติทั่วประเทศ

Uncategorized

กิน “มะรุม” ทั้งป้องกันและรักษามะเร็งลำไส้

โรคที่น่ากลัวสำหรับทุกคน   มะเร็ง โรคที่น่ากลัวสำหรับทุกคน ในประเทศไทยมีอัตราคนเจ็บป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งถือเป็นอันดับสูงสุด ซึ่งสาเหตุของการเกิดโรคมาจากสองปัจจัยหลัก ๆ คือ  ปัจจัยภายในร่างกาย เช่น ความผิดปกติทางพันธุกรรม ยีน หรือความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน และปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกาย เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค รวมถึงการได้รับรังสี เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และพยาธิบางชนิด เป็นต้น มะเร็งลำไส้ สาเหตุจากการกินอาหาร มะเร็งชนิดหนึ่งที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างน่าตกใจ ก็คือ มะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งสาเหตุหลักของการเกิดโรคจะมาจากการบริโภคอาหารเป็นส่วนใหญ่ ล่าสุด ผศ.ดร.ชนิพรรณ บุตรยี่ อาจารย์ประจำสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการศึกษาผักไทยในอาหารของสถาบันโภชนาการ เพื่อค้นหาพืชผักสุมนไพรที่จะช่วยลดความเสี่ยงหรือช่วยรักษาการเป็นมะเร็งลำไส้ได้ มะรุม ผักไทยเป็นพระเอกตัวจริง จากการศึกษาพบว่า มะรุม สามารถลดอาการอักเสบจากมะเร็งลำไส้ได้ดีที่สุด โดยทำการทดลองกับหนูทดลอง ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มที่กินมะรุมในเชิงป้องกัน และกลุ่มที่กินมะรุมในเชิงการรักษา โดยในเชิงป้องกัน หนูจะได้รับอาหารที่มีส่วนผสมของมะรุมก่อน 2 สัปดาห์ แล้วจึงให้สารก่อมะเร็ง จากนั้นก็ให้อาหารที่มีส่วนผสมของมะรุมต่ออีก 3 สัปดาห์ และให้อาหารปกติจนครบ 20 สัปดาห์ ในกลุ่มนี้พบว่า ไม่ว่าจะได้รับฝักมะรุมต้มโดสต่ำหรือโดสสูง จำนวนก้อนมะเร็งหรือตัวพยาธิของมะเร็งจะดีขึ้น โดยโดสสูงให้ผลในการลดจำนวนก้อนได้ดีกว่าโดสต่ำ ส่วนในเชิงการรักษาหรือบรรเทาสภาพมะเร็ง จะใช้หนูที่ถูกกระตุ้นให้เป็นมะเร็งก่อน…

Continue Reading

Uncategorized

จำกัดการใช้งานสมาร์ทโฟนของลูกด้วยแอปพลิเคชัน Family Link

การใช้งานในเทคโนโลยีของเด็กยุคดิจิทัล                 ความก้าวหน้าในสังคมที่สามารถเห็นได้ชัดเจนที่สุดนั่นคือเรื่องของเทคโนโลยีการสื่อสาร ที่เราต่างได้สัมผัสและคุ้นเคยจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันอย่างไม่มีใครปฏิเสธได้ โดยเฉพาะกับผู้ที่ต้องอยู่ในกลุ่มสังคมทำงานที่ต้องการการติดต่อสื่อสารกันตลอดเวลา ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึงเจ้าเครื่องมือที่เรียกว่าสมาร์ทโฟนนั่นเอง ที่ตอนนี้มันได้ถูกพัฒนาจนเป็นมากกว่าแค่การใช้สื่อสารพูดคุย แต่มันยังเป็นสื่อกลางในการรวมความน่าสนใจของสื่อบันเทิงหลาย ๆ อย่างไว้ด้วย เช่น การถ่ายภาพและตกแต่งภาพ การดูหนัง ฟังเพลง แชทจากแอปพลิเคชันต่าง ๆ หรือการเล่นเกมที่เชื่อมต่อออนไลน์มากมาย เป็นต้น ความสามารถดังกล่าวของสมาร์ทโฟนทำให้มันกลายเป็นที่นิยมอย่างง่ายดาย แต่ปัญหาหนึ่งและเป็นปัญหาสำคัญที่ตามมาก็คือ ปัญหาเด็กติดสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองจำนวนมากกลุ้มใจและเป็นกังวล เนื่องจากปัญหานี้สร้างผลกระทบในทางลบต่อตัวเด็กหลายอย่าง ทั้งการติดเกมจนเสียการเรียน ติดสังคมออนไลน์จนไม่เข้าสังคมบนโลกความจริง ใจร้อน หงุดหงิดง่ายขึ้นจากนิสัยติดความรวดเร็วในอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟน เป็นต้น พ่อแม่หลายคนอยากให้ลูกตนเองเลิกเล่นหรือลดการเล่นสมาร์ทโฟนลง แต่ก็แก้ไม่ได้สักที Family Link แอปพลิเคชันช่วยจำกัดการใช้งานสมาร์ทโฟนบนแอนดรอยด์ ทาง Google ได้มีแนวคิดเรื่องการช่วยหาทางออกให้ผู้ปกครองเรื่องการใช้งานสมาร์ทโฟนที่มากเกินความพอดีของเด็ก โดยสร้างความสอดคล้องให้เข้ากับเทคโนโลยีในรูปแบบของแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการ Android Nougat โดยใช้ชื่อแอปพลิเคชันว่า Family Link เป็นแอปที่ใช้กำหนดเวลาการใช้งานสมาร์ทโฟน หรือกำหนดกาเข้าถึงแอปต่าง ๆ ที่ได้เลือกตั้งค่าไว้ จุดประสงค์ก็เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถใช้จำกัดการใช้งานในสมาร์ทโฟนของลูกตนเองได้เมื่อไม่ได้อยู่ในสายตา โดยแอปนี้เหมาะสำหรับใช้ควบคุมการใช้งานของเด็กที่อายุในช่วงไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่ไม่สามารถแยกแยะและจัดการเวลาหรือความเหมาะสมให้แก่ตนเองได้เท่าที่ควร และมีเกณฑ์ติดสามาร์ทโฟนได้ง่ายที่สุด การใช้งานของแอปพลิเคชันนี้ก็ไม่ยาก เพียงแค่ผู้ปกครองจัดการสร้างบัญชี Google ใหม่สำหรับเด็กในแอป Family Link ทำการ…

Continue Reading

Uncategorized

ประสบความสำเร็จ ปลาพลวงชมพูเลี้ยงได้ในบ่อซีเมนต์ เล็งเป็นปลาเศรษฐกิจสร้างรายได้

ปลาพลวงชมพู ปลาน้ำจืดหายากของแดนใต้ ปลาอีแกกือเลาะห์ หรือเรียกสั้น ๆ เข้าใจง่ายของคนท้องถิ่นว่า ปลากือเลาะห์ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ปลาพลวงชมพู เป็นปลาน้ำจืดที่จัดอยู่ในสายพันธุ์เดียวกันกับปลาพลวงหิน ปลาเวียน แหล่งที่พบจะเป็นทางภาคใต้ของประเทศไทยในบริเวณจังหวัดยะลาและจังหวัดนราธิวาส ในเขตที่เป็นน้ำตกเย็น ๆ หรือตามต้นทางน้ำที่มีการไหลผ่านของน้ำ เพราะเป็นปลาที่ต้องการออกซิเจนในน้ำค่อนข้างมาก ใน  2 จังหวัดนั้นจะพบมากที่สุดโดยเฉพาะกับทางต้นน้ำของยะลา จนในวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 ได้มีการประกาศให้ปลาพลวงชมพู หรือ ปลากือเลาะห์ กลายเป็นปลาประจำจังหวัดของยะลาไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็มีการพบว่าปลาพลวงชมพูนั้นได้มีจำนวนลดลงเรื่อย ๆ จนน่าเป็นห่วงว่าจะสูญพันธุ์ไป เพราะไม่สามารถนำมาเพาะเลี้ยงด้วยฝีมือมนุษย์เองได้ อีกทั้งพื้นที่ทางธรรมชาติที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของปลาชนิดนี้ก็เป็นพื้นที่ที่หาได้ยากกว่าปลาชนิดอื่น ทางกรมประมงร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดจังหวัดยะลาได้เริ่มทำการวิจัยปลาพลวงชมพูอย่างจริงจังเมื่อปี พ.ศ. 2515 เพื่อช่วยกันศึกษาและหาทางออกเพื่อขยายพันธุ์และอนุรักษ์ไว้ เพื่อให้ชาวบ้านสามารถนำปลาชนิดนี้มาเพาะเลี้ยงได้เอง ความสำเร็จที่เห็นผล ปลาพลวงชมพูสามารถเลี้ยงได้แล้วในบ่อซีเมนต์                 รวมระยะเวลาแล้วก็ 45 ปี ที่นักวิจัยสามารถร่วมกันหาทางออกจนทำให้ตอนนี้ปลากือเลาะห์ หรือ ปลาพวงชมพู สามารถนำมาเพาะเลี้ยงเองได้สำเร็จ โดยสามารถนำมาเพาะเลี้ยงได้ในบ่อซีเมนต์ได้ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นข่าวดีของชาวจังหวัดยะลาและนราธิวาสอย่างมาก เพราะนอกจากจะไม่ต้องสูญเสียพันธุ์ปลาดี ๆ แบบนี้ไปตามธรรมชาติแล้ว ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างรายได้ที่น่าสนใจให้อีกด้วย เนื่องจากปลาพลวงชมพูเป็นปลาน้ำจืดที่มีรสชาติอร่อย เป็นที่นิยมไม่ใช่เฉพาะแต่ทางภาคใต้ของไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นที่นิยมไปถึงในแถบประเทศ อิโดนีเซียและมาเลเซียด้วย นั่นสามารถทำให้เป็นปลาที่ส่งออกขายได้เลย ยิ่งโดยเฉพาะกับทางมาเลเซียที่นิยมรับประทานแต่ทางประเทศไม่อนุญาตให้จับเพราะกลัวการสูญพันธุ์…

Continue Reading

Uncategorized

ชาร์จมือถือจากพลังงานโซล่าเซลล์บนหมวกแก๊ปแบบนี้ก็ได้ด้วย ?

โซล่าเซลล์ พลังงานประหยัดจากธรรมชาติ เราต่างรู้ดีว่ามนุษย์คือเผ่าพันธุ์หนึ่งเดียวที่มีอัตราการใช้พลังงานจากหลายสิ่งหลายอย่างมากที่สุด อันเนื่องมาจากมันสมองอันชาญฉลาดที่คิดค้นดัดแปลงข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ นานามาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ตนเอง ซึ่งวิวัฒนาการของเทคโนโลยีก็ก้าวล้ำขึ้นเรื่อย ๆ จะเห็นได้จากความเป็นอยู่ในปัจจุบันของสังคมมนุษย์ที่ต่างไปจากหลายร้อยปีก่อนมาก โดยเฉพาะเรื่องของแสงสว่างที่ต้องอาศัยกระแสไฟฟ้าเป็นตัวนำพา ที่นอกจากตอนนี้เราจะมีแสงสว่างใช้กันอย่างทั่วถึงแล้ว พลังงานดังกล่าวยังถูกดัดแปลงมาให้สามารถใช้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ อีกด้วย จนเกิดภาวะของการใช้พลังงานที่มากและหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ พลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่าง โซล่าเซลล์ จึงถูกค้นพบและพยายามพัฒนาโดยนักวิจัย นักประดิษฐ์มากมายเพื่อให้สามารถนำมาใช้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้ ตามที่เราเคยได้รับรู้กันมา เช่น การติดเป็นแผงหลงคาของบ้าน โรงงาน หรืออาคารทางการเกษตรต่าง ๆ เพื่อเก็บพลังจากแสงอาทิตย์มาแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้สอย เป็นการลดกำลังการผลิตไฟฟ้าลงได้ แต่มนุษย์ไม่มีทางหยุดแค่การทำแผงหลังคาเท่านั้น เพราะตอนนี้ได้มีการริเริ่มทำแผงโซล่าเซลล์ติดกับหมวกแก๊ปเพื่อใช้ชาร์จมือถือได้แล้ว ความก้าวหน้าที่แปลกใหม่แต่ได้ประโยชน์ของหมวกโซล่าเซลล์                 ทางธุรกิจสตาร์ทอัพอย่าง SolSol ของทางฝั่ง Los Angeles มีแนวคิดที่จะพัฒนาการเก็บพลังงานจากแสงอาทิตย์ผ่านทางแผงโซล่าเซลล์ให้มีความเข้ายุคสมัยและผู้คนทั่วไปสามารถเลือกใช้งานกันได้อย่างสะดวก โดยไม่จำเป็นต้องติดแผงโซล่าเซลล์นี้บนหลังคาบ้านก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมใช้พลังงานทางธรรมชาติได้เช่นกัน โดยดัดแปลงนำแผงโซล่าเซลล์เล็ก ๆ มาติดไว้กับหมวกแก๊ป และมีแนวโน้มกับหมวกทรงอื่น ๆ ด้วย จุดประสงค์ก็เพื่อให้ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่มือถือ รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่เสียบผ่าน USB ด้วย เพราะเล็งเห็นว่าหมวกเป็นอุปกรณ์ที่ใคร ๆ ก็พกพาได้ มันได้ประโยชน์ทั้งบังแดดเมื่อสวมใส่และเป็นเครื่องประดับให้กับการแต่งกายด้วยอีกทาง จึงเห็นว่าประโยชน์ที่ได้น่าจะดีกว่าการพกแบตสำรอง แต่ถึงอย่างไรนี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น เพราะได้ทดลองใช้งานแล้วยังเก็บพลังงานนำมาชาร์จแบตได้เพียง  200 mAh…

Continue Reading

Uncategorized

เทคโนโลยีโดรนเพื่อประสิทธิภาพทางการเกษตร

เมื่อการเกษตรได้กลายเป็นตัวทำลายสิ่งแวดล้อม เมือง Kuala Lipis ในรัฐ Pahang ประเทศมาเลเซีย เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยพื้นที่การเกษตรโดยเฉพาะปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศมาเลเซีย แต่อุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันนี้ได้กลายเป็นตัวทำลายสภาพแวดล้อมของผืนป่าในประเทศ เนื่องจากต้องมีการเผาถางป่าเพื่อให้ได้พื้นที่เพาะปลูก ทำให้พื้นที่ป่าในประเทศเสียหายลงอย่างมาก เทคโนโลยีเพื่อจัดการบริหารพื้นที่การเกษตร หลายบริษัทพยายามที่จะออกนโยบายเพื่อทำการเกษตรแบบยั่งยืน และนอกจากนี้ยังมีกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพมาเลเซียกลุ่มหนึ่งคิดค้นนวัตกรรมใหม่นั่นคือ Poladrone ไว้ใช้กับเครื่องโดรน เพื่อใช้ในพื้นที่เพาะปลูก โดยให้มุมมองแบบ bird-eye view ซึ่งสามารถเห็นพื้นที่แปลงเพาะปลูกทั้งหมดได้ พร้อมทั้งแผนที่แสดงข้อมูลจำนวนต้นไม้ทั้งหมดในฟาร์มและยังสามารถวัดค่าความแข็งแรงของต้นไม้ได้ โดยใช้  Litchi ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์การควบคุมการบินของโดรน ตัว Poladrone จะโหลดข้อมูลการบินเข้าเครื่องโดรน ผู้ใช้จึงไม่ต้องคอยกำกับ หากแต่เครื่องจะบินเองโดยอัตโนมัติ เซิร์ฟเวอร์เพื่อข้อมูลที่แม่นยำ การทำงานของ Poladrone คือจะรอให้กล้องโดรนขึ้นไปถ่ายเก็บข้อมูลแล้วจะส่งผ่านมายังเซิร์ฟเวอร์ของ Poladrone ผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ต แล้วทำการปักหมุดข้อมูลภาพพร้อมการวิเคราะห์ เช่น จำนวนต้นไม้ หรือความแตกต่างจากครั้งก่อน ๆ การวิเคราะห์ของ Poladrone สามารทำได้อย่างแม่นยำ ทำให้เจ้าของสวนสามารถติดตามความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่เพาะปลูกของตนได้ไม่ว่าจะเป็นการตรวจพบบริเวณพื้นที่ถูกทำลาย ๆ หรือมีการกั้นพื้นที่ทางเข้าใด ๆ หรือไม่ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปตรวจสอบโดยตรงในฟาร์ม ทำให้สามารถลดเวลาและสามารถวางแผนพื้นที่เพาะปลูกได้อย่างทันท่วงที การเข้าถึงผู้ใช้ที่คุ้นชินกับวิธีการเดิม ๆ คือความท้าทาย ความท้าทายของ Poladrone คือ ชาวสวนคุ้นชินกับวิธีการเดิม ๆ…

Continue Reading

Uncategorized

Homage ธุรกิจเพื่อรองรับปัญหาการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงอายุ

การเริ่มขึ้นของ Homage ความก้าวหน้าทางด้านการแพทย์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้จำนวนประชากรผู้สูงอายุเป็นปัญหาในหลายประเทศ ซึ่งผู้สูงอายุเหล่านี้ต้องการความช่วยเหลือและดูแล แต่อุปทานของผู้ดูแลค่อนข้างต่ำ โดยเฉพาะสิงคโปร์ที่มีจำนวนประชากรผู้สูงอายุคิดเป็น 12.4% ของจำนวนประชากรทั้งหมด จึงมีธุรกิจสตาร์ทอัพที่ชื่อว่า Homage ก่อตั้งโดย Gillian Tee Lily Phang และ Tong Duong ด้วยความตระหนักว่าพ่อแม่ของพวกเขาก็เข้าสู่วัยผู้สูงอายุและต้องการการดูแลที่มีประสิทธิภาพในขณะที่พวกเขาต้องทำงานไกลบ้านทั้งวัน ประกอบกับความเชี่ยวชาญที่เขามีในการจัดการด้านการดูแลสุขภาพและคลินิกในเอเชียด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี การให้บริการผ่านอินเตอร์เน็ต Homage ให้บริการผ่านเว็บไซต์ โดยผู้ใช้บริการสามารถลงทะเบียนและเลือกความต้องการ หลังจากนี้ Homage จะเป็นผู้สรรหาคนดูแลให้ตรงกับความต้องการ คัดเลือกโดยดูจากภูมิหลัง ใบประกาศนียบัตร CPR การเข้าอบรม ประวัติการทำงาน และการตรวจสุขภาพ นอกจากนี้ยังต้องมีการสัมภาษณ์กับทีมงานเพื่อคัดเลือกผู้ดูแลที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า หลังจากนั้นจึงส่งตัวผู้ที่ผ่านการคัดเลือกไปดูแลลูกค้าถึงบ้าน เมื่อเทคโนโลยีจับคู่กับปัญหาสังคม Homage ใช้โอกาสความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในยุคดิจิตอลเพื่อพัฒนาเครื่องมือบนเว็บไซต์เพื่อให้การจับคู่ระหว่างผู้สูงอายุและผู้ดูแลมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเชื่อว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้จะสามารถแก้ไขปัญหาผู้สูงอายุที่ไร้คนดูแล ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ได้ โดยใช้เวลา ทรัพยากรและเงินทุนส่วนใหญ่เพื่อพัฒนาการบริการให้มั่นใจว่าสามารถจัดหาคนดูแลที่มีคุณภาพและน่าไว้วางใจเหมือนคนในครอบครัว ที่มาของไอเดียเกิดขึ้นจากความต้องการของตลาด ความสำเร็จของ Homage นั้นมาจากการตระหนักถึงว่า เอเชียเป็นสังคมที่ให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ แต่การเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยทำให้การดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่ยาก การหาโอกาสช่องว่างที่ทำให้สังคมสมัยใหม่เปลี่ยนไปก็มีโอกาสที่ธุรกิจจะเติบโตได้สูง มีโอกาสทางธุรกิจมากมายสำหรับผู้สูงอายุที่กำลังเป็นความต้องการทางตลาดแต่ยังไม่มีผู้ลงทุน ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุนั้นมีตลาดรองรับอยู่แล้ว เหลือเพียงแต่รอผู้คิดค้นไอเดียใหม่ ๆ โดยใช้เครื่องมือนวัตกรรมใหม่ ๆ ในยุคดิจิตอลที่ทำให้คนเข้าถึงง่ายมาผสมผสานสร้างเป็นธุรกิจขึ้นมา

Uncategorized

“มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก” ชักธงรบ ข่าวปลอม ในเฟซบุ๊ก

พิษข่าวปลอมในเฟซบุ๊ก ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารหลั่งไหลมาสู่ตัวเรารอบด้าน และหลายครั้งที่บรรดาข้อมูลเหล่านั้นไม่ได้ผ่านตัวกลางในการกลั่นกรองความถูกต้อง ด้วยโลกโซเซียลทำให้ใครสามารถโพสต์ข้อความอะไรก็ได้ อีกทั้งยังส่งต่อข้อมูลให้แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว เราจึงได้เห็นหลายต่อหลายเหตุการณ์ที่มีทั้งด้านบวกและด้านลบ บ่อยครั้งที่เราไม่รู้ตัวหรือไม่ทันฉุกคิดว่าได้ตกเป็นเครื่องมือในการกระจายข่าวปลอมและทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเสียหายมากแค่ไหน ในทุก ๆ วันจึงมีคนจำนวนไม่น้อยต้องพลอยโดนผลกระทบหรือถูกทำร้ายจากข่าวที่ไม่จริงอยู่เสมอ ๆ ล่าสุด  มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอและหนึ่งในผู้ก่อตั้งเครือข่ายสังคมอันดับ 1 ของโลกอย่างเฟซบุ๊ก ได้ออกมาแสดงจุดยืนถึงความพยายามในการต่อสู้กับข่าวปลอมหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง พร้อมประกาศเจตนารมณ์ที่จะพัฒนาเครื่องมือและวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยกำหนดเป้าหมายที่จะเดินไปสู่การจัดการปัญหาให้ได้ผล เริ่มแรกคือ เครื่องมือหรือระบบที่ถูกสร้างขึ้นต้องสามารถเรียนรู้กฎเกณฑ์ในการจำแนกข้อมูล โดยศึกษาจากการรายงานข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจากผู้ใช้ และนำกฎเหล่านั้นมาใช้งานจริงได้อย่างอัตโนมัติ ผู้ใช้เฟซบุ๊กควรเลือกเสพข่าวก่อนแชร์ การให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กสามารถรายงานข้อมูลที่ผิดพลาดให้ผู้ดูแลระบบทราบได้โดยง่าย รวมถึงแจ้งเตือนผู้ใช้ถึงระดับความเสี่ยงต่อความผิดพลาดของข้อมูลหรือข่าวสารแต่ละชิ้น ก่อนที่จะอ่านหรือส่งต่อข้อมูลดังกล่าว ก็เป็นสิ่งที่มาร์กให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ขณะเดียวกัน ยังเร่งสร้างความร่วมมือกับองค์กรอื่น ๆ ที่ทำงานด้านระบบตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล รวมทั้งปรับปรุงวิธีการคัดเลือกข้อมูลหรือข่าวสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะถูกแสดงอยู่ในหน้าจอบริเวณใกล้เคียงกับข่าวที่ผู้ใช้กำลังอ่านในขณะนั้น ก่อนหน้านี้ มีการศึกษาพบว่าข้อมูลที่ผิดพลาดจำนวนมากเกิดจากโฆษณาที่มุ่งเป้าหมายไปยังกลุ่มผู้ใช้ที่มีความสนใจด้านการเงินและการลงทุน เฟซบุ๊กจึงได้วางแผนที่จะพัฒนานโยบายที่สามารถควบคุมโฆษณาในกลุ่มดังกล่าวเพื่อลดการสร้างความสับสนในข้อมูลเชิงเศรษฐศาสตร์ ที่สำคัญยังพร้อมรับฟังความคิดเห็นและเรียนรู้จากสื่อมวลชน ตลอดจนผู้ที่ทำงานในวงการวารสารศาสตร์เพื่อสร้างความเข้าใจในการพัฒนาระบบตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอีกด้วย เพื่อสกัดกั้นข้อมูลที่ไม่จริงหรือข้อมูลที่ดัดแปลงเพื่อทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนถูกเข้าใจผิด แต่เหนือสิ่งอื่นใด ตัวเราเองก็ต้องใช้สติในการพิจารณาข้อมูลข่าวสารที่ผ่านมาเข้ามาในแต่ละวันให้มาก ๆ ก่อนที่จะกลายเป็นผู้ร้ายทำลายผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว

Uncategorized

เรื่องน่ารู้ โอลิมปิก ริโอ 2016 เตรียมชมและเชียร์สุดใจ

เตรียมนับถอยหลังอีกไม่กี่วันแล้ว กับมหกรรมการแข่งขันกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ “โอลิมปิก 2016” ซึ่งคราวนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 31 โดยมีประเทศเจ้าภาพเป็นประเทศบราซิล ซึ่งพิธีเปิดจะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 5 สิงหาคมนี้ 1และการแข่งขันจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 21 สิงหาคม ซึ่งบอกได้เลยว่าแฟนกีฬาจะได้เต็มอิ่มจุใจกันกับหลากหลายกีฬา ตามลุ้น ชม และเชียร์ได้อย่างเต็มที่กันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าจะกล่าวถึงประวัติกีฬาโอลิมปิกแล้ว กีฬาโอลิมปิกยุคโบราณนั้นเริ่มขึ้นก่อนคริสตกาลกว่า 1,000 ปี ได้ทำการแข่งขันกันบนยอดเขาโอลิมปัส ในประเทศกรีซ แต่ยุคนั้นนักกีฬาจะเป็นเพศชายเท่านั้น เนื่องจากการแข่งขันจะต้องเปลือยกาย แต่ต่อมาในปีที่ 776 ก่อนคริสกาล มีคนมาดูการแข่งมาก ต้องย้ายลงมาแข่งที่เชิงเขาโอลิมปัสแทน และได้ปรับปรุงการแข่งขัน ให้ผู้เข้าแข่งขันสวมกางเกง ทั้งยังอนุญาตให้ผู้หญิงเข้าชมการแข่งขันได้ ซึ่งการแข่งขันที่จัดขึ้นในสมัยโบราณนั้น มี 5 ประเภท ได้แก่ วิ่ง, กระโดด, มวยปล้ำ, พุ่งแหลน และขว้างจักร ซึ่งรางวัลของผู้ชนะคือมงกุฎกิ่งมะกอก และได้รับเกียรติในการเดินทางไปทุกรัฐ ในฐานะตัวแทนของพระเจ้า การแข่งขันโอลิมปิกจะจัดขึ้นทุก 4 ปี หากตรงกับช่วงที่มีการทำสงครามก็จะหยุดทำสงครามสักพักเพื่อทำการแข่งขันโอลิมปิก เมื่อจบการแข่งขันค่อยกลับไปทำสงครามกันต่อ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกนั้นดำเนินการแข่งขันติดต่อกันอย่างยาวนานถึง 1,200 ปี จวบจนกระทั่ง ปี พ.ศ.936 จักรพรรดิแห่งโรมันธีโอดอร์ซิดุ  ได้ทรงมีการประกาศยกเลิกการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เพราะเกิดปัญหาการว่าจ้างนักกีฬาลงแข่งเพื่อหวังรางวัลและมีปัญหาการพนันเข้าเกี่ยวข้องมาด้วย…

Continue Reading